19/1/61
สูตรยารักษามะเร็ง และเบาหวาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
สูตรตำรายารักษามะเร็ง และเบาหวาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำเมตตาบอกไว้
สูตรตำรายารักษามะเร็ง และเบาหวาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำเมตตาบอกไว้
ด้วยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมญาณเรียนวิชาแพทย์แผนโบราณมาตั้งแต่ยังไม่
บวช หลังจากบวชแล้วก็ได้เป็นผู้ช่วยหลวงปู่ปาน รักษาคนไข้
และได้เรียนวิชาแพทย์จากท่านที่มีอทิสสมานกายอีกมาก
วิชาเหล่านี้ต่อมาจากท่านละทิ้งหมด จนกระทั้งเริ่มรับลูกศิษย์
และเห็นทุกขเวทนาของลูกศิษย์บางคน จึงได้บอกสูตรยาต่างๆ ให้
รายละเอียดมีดังนี้
สูตรยาแก้โรคมะเร็งและโรคอักเสบภายในต่างๆ สูตรตัวยามีดังนี้
* ขมิ้นชัน ๑ กำมือ
* กับหญ้าแพรก ๑ กำมือ
* โขลกให้ละเอียดคั้นกับน้ำปูนใส (ปูนกินกับหมาก) แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง
วิธีใช้
รับประทานครั้งละประมาณ ๑ ถ้วยชา หรือประมาณ ๓๐ ซี.ซี
รับประทานวันละ ๑ ครั้ง ก่อนอาหารเช้า ๓๐ นาที หรือ ๑๕ นาที เป็นอย่างน้อย
รักษาโรคมะเร็ง และโรคอักเสบต่างๆ ได้ทั้งหมด เช่น โรคกระเพาะ
โรคลำไส้อักเสบ ตับอักเสบ ไตอักเสบ ฯ ล ฯ ถ้าโรคเบาหวาน ขณะที่กินยา
ห้ามกินกะปิกับของแสลง คือของหวานในช่วงกินยา ๓ วันหาย
ประวัติของยานี้หลวงพ่อเล่าให้ฟัง
เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๒๘ ยานี้ท่านหมอ โกมารภัจมาบอกหลวงพ่อ โดยหลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า
“ ยานี้คือยารักษาโรคมะเร็ง โรคเบาหวานเพียงแค่พื้น ๆ โรคกระเพาะ
โรคตับนี้รักษาง่าย ท่านบอกว่า แต่อย่าไปรับรองชาวบ้านเขานะ
ห้ามรับรองชาวบ้านเขา ฝีในท้องกิน ๓ ระยะ ๆ ๓ วัน เว้น ๗ วันหาย
บอกว่าถ้าหัวฝีแตกยิ่งดีใหญ่ โรคไต ๓
ถ้วยหายโรคอักเสบทั้งหมดรักษาได้ทุกอย่าง โรคเบาหวานห้ามกินกะปิ
และของหวานในช่วงเวลาที่กินยา คนไข้คนไหนไม่เว้นของแสลง ไม่ควรสงสาร
เพราะว่าตัวเขาเองยังไม่รัก แล้วเราจะไปรักทำไมต้องถือคตินี้นะ
ประวัติ ความเป็นมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ตอนนั้นอยู่ชัยนาท คุณสมศรี
เธอเป็นโรคมะเร็งในมดลูก รักษาตัวมาเป็นเดือนหมดเงินเป็นหมื่น
มะเร็งระยะสองไม่หาย เธอมาปรารภอาการป่วยให้ฟัง ยาฉันก็ไม่มี
ฉันไม่รู้จะไปหาที่ไหน นั่งนึกถึง ท่านโกมารภัจ ท่านก็มาท่านบอกให้แม่มันไป
ตลาดโพธิ์นางดำ ไปถามหมอโบราณที่นั่น หมอชื่ออะไร รูปร่างอย่างไร
ท่านก็ไม่บอก บอกไปเถอะไปเจอใครเขาบอกยาองเขารักษาหาย ให้เอามารักษาจะหาย
ไม่ใหม่ประวัติความเป็นมาจำไว้นะ
แล้วแกก็ไปหาทันที ไปรอลงเรือที่ ประตูน้ำเขื่อนเจ้าพระยา ก็ไปรอลงเรือ
ไอ้ท่าเรือก็มีผู้ชายคนหนึ่งผอมโปร่งผิวขาว
แต่งตัวเรียบร้อยไม่พูดไม่จากับใคร นั่งเฉยหัว ก็ขาวโพลน
นั่งเฉยคอยเรือเกือบชั่วโมงไม่พูดกับใครเลย
เวลาลงเรือหางยาวบังเอิญ นั่งคู่กันไป เรือวิ่งไปประมาณ ๑ กิโลเมตร
แกหันมาถามว่าหนูจะไปไหน บอกจะไป ตลาดโพธิ์นางดำ ถามไปทำไม
บอกลูกสาวประจำเดือนออกไม่หยุด หมอบอกเป็นมะเร็งที่มดลูก ชายคนนั้น
แกถามต่อไปว่า แล้วนี่จะไปไหน บอกไปหาหมอ ถามหมอชื่ออะไร แกบอกไม่รู้
บอกไม่รู้ไปอย่างไร
บอกว่าพระท่านบอกถ้าไปเจอหมอที่ โพธิ์นางดำ ท่านเป็นหมอโบราณ
ถ้าท่านบอกยารักษาหายให้นำมาเลย บอกถ้าอย่างนั้นไม่ต้องไป
ยาที่ฉันมีพอเรือหางยางสวนมาแกกวักมือบอกกลับได้
แล้ว ปรากฏว่าวันหลังไปถามเรือหางยาวคนนั้นว่า คนรูปร่างแบบนั้นขึ้นที่ไหน
ไอ้เรือหางยาวเขารู้จักกันบอกเวลานั่งมาเห็น
เลาขึ้นไม่เห็นตอนขึ้นเขาเก็บสตางค์
ไม่เห็นโดดน้ำไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แก่ทำกินไม่ถึงถ้วยชา
แคครึ่งถ้วยชา ถ้วยเดียวหาย แต่ท่านบอกว่าให้กิน ๓ ถ้วย
แล้วจะหายสนิทมะเร็งนี่นะ ไอ้โรคเบาหวานเรื่องเล็ก ๆ เล็ดหมดเลย
เบาหวานขนาดม้า มะเร็งขนาดช้าง ท่านเลยบอกว่าหาย ไอ้โรควัณโรคนานหน่อยนะ
กิน ๓ วันติด ๆ กัน เว้น ไป ๗ วัน ๓ ระยะ เท่ากับกิน ๙ ถ้วยหาย
ท่านก็เลยสรุปอักเสบทั้งหมดใช้ได้หมดเลย เดี๋ยวลองถามท่านกินบ่อย ๆ
จะได้ไหม ท่านบอกว่าป้องกันโรคต่าง ๆ ปีละงวด ๓ ถ้วย กิน ๓ วัน
ถ้ากินป้องกันร่างกายทรุดโทรม ๖ เดือนงวด จะไปกินเร็วกว่านั้นไม่ได้ ๖
เดือนกิน ๓ ถ้วย
แต่ท่านบอกว่าอย่าไปรับรองใครเขานะ บอกเราเคยกินหายมาแล้ว
เราอย่าไปรับรองผล ถ้าบังเอิญมันเป็นระยะปลาย และคนนั้นจะต้องตายมีอยู่
อย่าไปรับรองเขา แล้วท่านบอกว่า หญ้าแพรกทำให้เย็น ขมิ้นรักษา
และน้ำปูนใสทำให้อย่างแห้งเร็ว
ก่อนกินยานี้ให้นำดอกไม้ธูปเทียนบูชาพระ
ขอพระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ช่วยให้โรคหายไปจากร่างกาย
ขอพรท่านโกมารภัจเจ้าของยา ขอให้ท่านช่วยให้ยานี้มีฤทธิ์ทำลายโรคให้หมดไป
ขอพรท่านแม่ศรีช่วยด้วย ขอให้โรคทั้งหลายสลายตัวไปให้หมด
นับตั้งแต่กินยานี้เข้าไปแล้ว
ยานี้ใช้ได้ผลเฉพาะบุคคลที่มีความเชื่อในพระพุทธเจ้า พระธรรม
และพระอริยสงฆ์ เท่านั้น
พระพุทธคาถาแก้รักษาโรคมะเร็ง
วันพระ 15 ค่ำ ทรงศีล 8 บวงสรวงโดยใช้คำบวงสรวงของหลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ
แต่งชุดขาว อธิษฐานภาวนาด้วยพระคาถารักษาโรค
พุทธังทลาย ธัมมังหาย สังฆังสูญ
พุทโธรักษา ธัมโมรักษา สังโฆรักษา
แล้วสูดลมกลั้นหายใจ 1 อึด
และภาวนาตามลมหายใจเข้าออกนึกในใจว่า
สัมพุทโธมะอะอิ ระโชหะระนัง ระชังหะระติ
สูตรบนที่ใช้แห้วหมู มะเร็งกับเบาหวาน ส่วนหญ้าแพรกคลอบคลุมหลายโรค มีเรื่องกระเพราะ ตับ ไต เข้ามาด้วย
** สมุนไพรใกล้ตัว มุ่งเสนอสรรพคุณทางยา การนำไปใช้ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน **
ขอบพระคุณแหล่งที่มา : palungjit.org
27/11/60
แจกสูตรน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำใส
แจกสูตรน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำใส น้ำซุปใสๆต้องใสและนัวสำหรับเปิดร้านทำขายได้เลย
ส่วนผสม
กระดูกเอี่ยวเล้ง 2 กิโลกรัม ล้างให้สะอาดเส้นไขมันตามแนวกะดูกเอาออกให้หมดน้ำสะอาด 30 ถ้วย (เน้นนะครับ อย่าใช้น้ำประปาเลยกลิ่นคอรีนเยอะมากหรือจะใช้ก็ต้องรองน้ำใส่ถังไว้ให้หมดกลิ่นก่อน)
หัวไช้เท้าหั่นแว่นๆ 2-3 หัว เอาไว้ทานได้ด้วยนอกจากทำให้หวานแล้ว
หอมหัวใหญ่ 2 ลูก ผ่าครึ่ง
รากผักชี 10 รากขึ้นไป ตามชอบเลย
กระเทียมไทยบุบ 1/2 ถ้วย
พริกไทยเม็ดบดหยาบ 2-3 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น ดอกเกลือยิ่งดี 2-3 ช้อนโต๊ะ ค่อยๆใส่นะครับ ชิมซะก่อน
ซีอิ้วขาว อย่างดี 1/2 ถ้วย
น้ำตาลกรวด 1/2 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
ล้างกระดูกให้สะอาด ตั้งน้ำเดือด ใส่กระดูกลวก 1 น้ำ ตักขึ้น ใส่หม้อที่จะต้มซุปนำน้ำตั้งไฟปานกลาง ใส่หัวไช้เท้าลงไป นำ หอมใหญ่ กระเทียม รากผักชี พริกไทย ห่อผ้า และใส่ลงไป พอน้ำเดือดช้อนฟองลดไฟอ่อน ฟองจะเยอะช้อนทิ้งให้หมด ใส่เกลือ ซีอิ้วขาว น้ำตาลกรวด ชิมรสให้เป็นที่พอใจ
บ้านผมเวลาทำก๋วยเตี๋ยวหมูนั้น จะไม่เหมือนที่อื่นคือ ผมจะนำหมูสันเป็นก้อนๆลงไปในซุปเลย ส่วนใส้หมู ก็จะต้มแยก และตับหมูต้มแยก ตับหมูแนะนำเป็นตับแป้ง ถามร้านเขาได้นะครับ มีขาย เวลาทาน จะเอาหมูก้อนที่ต้มไว้หั่น ตับหั่น ใส้หั่น เตรียมหมูสับไว้ทำบะช่อ อร่อยนะแบบโบราณ ดี อร่อยกว่าหมูลวกเป็นชิ้นๆอีก ลองทำดูนะครับ
ขอบคุณข้อมูลเจ้าของสูตรBy หมูอ้วนน่ารัก
เครดิตภาพจากอินเตอร์เน็ต
ข้อมูลจากคุณ Chomphoonut Panomai
12 สูตรอาหารเย็นลดน้ำหนัก
เผย 12 สูตรอาหารเย็นลดน้ำหนัก กินแบบนี้หุ่นดีแน่นอน สาวๆแชร์ด่วน
จะมีวิธีไหนบ้างที่เราจะลดน้ำหนักได้โดยที่ไม่ต้องอดอาหารสักมื้อ โดยเฉพาะมื้อเย็นนี่ถ้าหักอกหักใจไม่แตะเลยสักคำ ความหิวก็มักจะมาทักทายตอนดึก ๆ ทุกครั้งไป แต่ไม่ต้องห่วง ! ความหุ่นดีจะสถิตอยู่กับเราไปแสนนาน ตราบเท่าที่เรากินมื้อเย็นด้วยอาหารเย็นลดน้ำหนักตาม 12 สูตรนี้
1. พลังงานต้องไม่เกิน 550 กิโลแคลอรี
ไม่จำเป็นต้องอดอาหารเพื่อหุ่นสวยเลยสักนิด เพราะหากคุณจำกัดปริมาณการรับประทานอาหารให้อยู่ในช่วง 450-550 กิโลแคลอรีก็มีหุ่นดีได้ ยิ่งหากออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยยิ่งเริดเลย อ๊ะ ! แต่ทางที่ดีควรเลือกกินแต่ข้าวไม่ขัดสี แป้งไม่ขัดสี และอย่ากินข้าวเกิน 1 ทัพพี (แบบปาดเรียบ ๆ ไม่ใช่ทัพพีพูน) นะจ๊ะ
2. พยายามลดอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล
อาหารทั้ง 2 ประเภทนี้รู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นตัวการทำให้อ้วนได้ดีขนาดไหน ถ้าอย่างนั้นคนอยากมีหุ่นดีทั้งหลายควรหักอกหักใจหันหลังให้แป้งและน้ำตาลอย่างเด็ดขาด หรือหากจำเป็นต้องกินอาหารประเภทแป้งจริง ๆ อย่าลืมเลือกกินแป้งที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์อย่างพวกแป้งไม่ขัดสีด้วยล่ะ
3. เลือกกินอาหารที่ให้พลังงานต่ำ
มื้อเย็นที่กินแล้วไม่ทำให้อ้วนควรเป็นอาหารที่ให้พลังงานต่ำ เช่น สลัดผัก, ส้มตำ, น้ำพริกผักจิ้ม, ปลานึ่ง หรือเนื้อสัตว์ไขมันต่ำอย่างปลา เนื้อไก่ไม่ติดมัน รวมทั้งเต้าหู้ปลา เป็นต้น
4. กินโปรตีนให้เพียงพอ
โปรตีนจะช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่มอยู่ท้อง ดังนั้นในมื้อเย็นก็ควรจัดสรรอาหารที่มีโปรตีนสูงเพื่อให้ร่างกายได้รับโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการด้วย โดยอาจจะเลือกเสริมผลิตภัณฑ์ประเภทถั่วและปลาในมื้ออาหารเย็น นอกจากนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงไข่แดงและเครื่องในสัตว์ด้วยนะคะ เพราะไขมันสูงมาก ๆ
5. ดื่มน้ำเปล่าก่อนมื้ออาหาร
ก่อนจะรับประทานมื้อเย็น แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดประมาณ 2-4 แก้ว หรืออาจจะเลือกรับประทานอาหารที่มีกากใยมาก เช่น ผักและผลไม้ก็ได้ วิธีนี้จะช่วยถ่วงเวลากระเพาะอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มจนกินอาหารได้น้อยลง แต่ความอิ่มท้องยังคงเท่าเดิม
6. หลีกเลี่ยงน้ำหวานและขนมทุกชนิด
ทั้งน้ำอัดลม น้ำหวานไม่อัดลม ชา กาแฟ เบเกอรี่ ขนมไทย ขนมขบเคี้ยวทุกชนิด นับเป็นของต้องห้ามที่ควรเลี่ยงอย่างแรงหากอยากมีหุ่นดี เพราะคิดดูสิว่าน้ำตาล ไขมัน และส่วนผสมที่ทำให้อ้วนจะมีมากขนาดไหนในอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้
7. หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง
อย่าลืมว่าร่างกายเราต้องการไขมันไปใช้ในกระบวนการทำงานต่าง ๆ ด้วย ทว่าไขมันที่เราควรจะเสิร์ฟร่างกายก็ต้องเป็นไขมันดีอย่างไขมันเชิงเดี่ยวจากน้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก อะโวคาโด และอาหารประเภทถั่วและธัญพืช แทนไขมันไม่ดีจากอาหารประเภทผัด ๆ ทอด ๆ
8. อย่าลืมกินไฟเบอร์
อาหารลดน้ำหนักอันดับต้น ๆ ต้องมีไฟเบอร์เป็นส่วนประกอบที่สำคัญอยู่แล้ว เพราะไฟเบอร์ไม่เพียงแต่ช่วยให้อิ่มเร็วเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติกระตุ้นการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี ดังนั้นอย่าลืมรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงอย่างพวกผักและผลไม้ด้วยล่ะ
9. ใช้เวลากินอย่างตั้งใจ
ในการรับประทานมื้อเย็น ทางที่ดีควรกินให้ห่างจากโทรทัศน์ หรือพยายามอย่ากินข้าวไปอ่านหนังสือหรือเล่นมือถือไป เพราะกิจกรรมระหว่างกินอาหารเหล่านี้จะช่วยให้เราเพลินกับการกินมากยิ่งขึ้น ชนิดที่ว่ารู้ตัวอีกทีก็จัดหนักไปซะเกินขีดจำกัดแล้ว
10. ขีดเส้นเวลามื้อเย็นไม่เกิน 19.00 น.
อาหารมื้อเย็นควรกินในช่วงเวลาที่ไม่เกิน 18.00-19.00 น. เนื่องจากหากกินอาหารดึกเกินเวลานี้ อาหารที่กินเข้าไปจะไม่ได้รับการเผาผลาญ โดยเฉพาะหากกินแล้วอาบน้ำเข้านอนเลย เพราะในที่สุดเหล่าอาหารรสชาติอร่อยก็จะกลายเป็นไขมันที่พอกพูนตามเนื้อตัวนั่นเอง
11. ลดการดื่มแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวการร้ายที่เพิ่มน้ำหนักเราได้แบบพุ่งกระฉูด ยิ่งหากทุกเย็นคุณต้องนั่งจิบเบียร์เป็นประจำ แบบนี้ต่อให้ออกกำลังกายอย่างหนักน้ำหนักก็ไม่ลด แถมยังอาจได้สุขภาพแย่ ๆ จากการดื่มแอลกอฮอล์กลับไปด้วย
12. ใช้ภาชนะขนาดเล็ก และกินอย่างสโลว์ไลฟ์
เชื่อไหมคะว่าแค่เพียงเปลี่ยนภาชนะใส่อาหารมื้อเย็นให้มีขนาดเล็กลง รวมทั้งใช้ช้อนขนาดเล็กกว่าปกติตักอาหารรับประทาน เท่านี้ก็ช่วยให้เรามีหุ่นดีได้ เนื่องจากการใช้ภาชนะขนาดเล็กจะทำให้รับประทานอาหารได้น้อยกว่าเดิมเพราะเกิดความรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น แต่ทั้งนี้คุณเองก็ควรเคี้ยวอาหารอย่างช้า ๆ ไปด้วยนะคะ จะได้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นแบบทวีคูณไปเลย
หากกินมื้อเย็นได้ตาม 12 สูตรนี้ ควบคู่ไปกับการดูแลตัวเองในด้านอื่น ๆ เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ เชื่อสิว่าความหุ่นดีจะอยู่กับคุณไปอีกนาน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
และ http://health.kapook.com/view126969.html
ออกกำลังกายบริหารก้นสวยด้วย 3 สเตป
ห้ามพลาด! ออกกำลังกาย 3 สเตปนี้ ภายใน 1 เดือน คุณจะมีก้นที่ยกกระชับน่ามองแน่นอน
ข่าวดีสำหรับคุณก็คือ มีการออกกำลังกายอย่างถูกต้องแค่ไม่กี่ขั้นตอน ที่จะช่วยให้คุณได้สะโพกยกกระชับแบบที่คุณต้องการ
สองอย่างที่คุณต้องมีคือ
ดับเบล และ ความปรารถนาที่อยากจะแข็งแรง
คุณจะไม่หยุดเล่นหลังจากออกกำลังกายในวันแรก วางแผนการออกกำลังกาย โดย
โค้ชแองเจลี ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการออกกำลังอย่างน้อย 30 วัน
จะทำให้คุณบรรลุเป้าหมายตามที่คุณต้องการ
หมายเลขของแต่ละกล่องบ่งชี้ว่า จำนวนการทำในแต่ละวันที่คุณต้องทำ
การออกกำลังกายจะทำประมาณ
2-3 นาที แบ่งออกเป็นเช็ตๆละ 1 นาที การออกกำลังกายไม่ควรเกิน 11
นาทีต่อวัน และอย่าละเลยแม้สักวัน
เพราะกล้ามเนื้อของคุณต้องใช้เวลาในการสร้างพละกำลัง
1. การออกกำลังกายขั้นพื้นฐาน
ออกกำลังกายโดยการย่อตัวลงต่ำ กางขาออกให้กว้างระดับไหล่ หลังตรง งอเข่าให้ต่ำลง แต่ต้องไม่ให้เข่านำหน้าเท้าของคุณ หันมือเข้าหาตัว
2. การออกกำลังกายโดยเพิ่มน้ำหนัก
สำหรับการออกกำลังกายนี้คุณควรยืนตัวตรง
เพื่อให้ขากว้างออกในระดับไหล่ ถือดัมเบล เริ่มต้นด้วย การย่อตัวลง
หลังและมือตรงไม่งอ เริ่มออกกำลังโดยค่อยๆเพิ่มน้ำหนักที่ละน้อย
โดยปกติใช้น้ำหนักประมาณ 3-4 กก.
3. การออกกำลังกายในแต่ละท่าให้ต่อเนื่อง
ยืนตัวตรง ขากางออกให้กว้างระดับไหล่ วางมือไว้หลังศีรษะ จากนั้นเริ่มด้วยการย่อตัวลง อย่ากดมือลงบนคอและไม่เอียงศีรษะไป ข้างหน้า
ยืนตัวตรง ขากางออกให้กว้างระดับไหล่ วางมือไว้หลังศีรษะ จากนั้นเริ่มด้วยการย่อตัวลง อย่ากดมือลงบนคอและไม่เอียงศีรษะไป ข้างหน้า
ขอขอบคุณที่มา :
อ้างอิง : finelivingadvice.com
แปลข้อมูลโดย : http://www.rak-sukapap.com
อ้างอิง : finelivingadvice.com
แปลข้อมูลโดย : http://www.rak-sukapap.com
13/12/59
เคล็ดลับการอธิฐานเมื่อดวงตก
เคล็ดลับการอธิฐานเมื่อดวงตก เสริมบารมีและสะเดาะเคราะห์
เคราะห์ คือสัญญาณที่เตือนให้เราสำรวจว่าในตอนนั้น (หรือก่อนหน้านั้น) เราต้องบกพร่องในเรื่องใดเรื่องหนึ่งของชีวิตแน่นอน ธรรมชาติก็เลยเตือนเราด้วยเคราะห์ เพื่อให้เรารีบหันกลับมามอง หันกลับมาเรียนรู้ จะได้ปรับปรุงแก้ไข จะได้พัฒนาตนเองให้เข้าใกล้ความสมบูรณ์มากขึ้น และเพื่อเป็นการเสริมบารมี แต่งเติมราศี และสะเดาะเคราะห์
ให้จุดธูป 39 ดอก ที่โล่งแจ้งนอกชายคาบ้าน ช่วงเวลาจุด 06.00 น. ถึง 12.00 น.
ตั้งนะโม ฯ 3 จบ ตั้งจิตให้นิ่งแล้วอธิษฐาน ดังนี้
“ ข้าพเจ้าชื่อ………………….นามสกุล…………………………..อายุ………..ปี (ถ้าเปลี่ยนชื่อให้กล่าวชื่อเดิม)
ขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ หลวงพ่อปานวัดบางนมโค หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ อีกทั้ง เทวดาที่คุ้มครองและท่านท้าวพระยายมราช จงได้โปรดสงเคราะห์ ระงับกรรมที่เป็น อกุศล ที่มาตัดรอนชีวิต อายุ การเงิน การงาน ความสุขในครอบครัวไว้ก่อน เพื่อที่จะให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสสำเร็จประโยชน์ ในทุกสิ่ง เพื่อที่จะได้บำเพ็ญบารมี ทานศีลภาวนา ในการอันสมควร และขอให้บริวารอยู่ในปกครอง อุปสรรคในกิจการงานจงอย่ามีแก่ข้าพเจ้า”
หากอ่านแล้วเข้าใจทั้งหมดแล้วได้ลงมือทำ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปถ้าทำครบถ้วนถูกต้อง ต่อให้ “ดวงตก” มีปัญหาเรื่องเงินแค่ไหน เราก็แก้ไขได้ ชีวิตก็จะมีแต่ความสุข ความเจริญหลั่งไหลเข้ามาแบบไม่ขาดสาย
ขอขอบคุณ : http://horoscope.sanook.com
8/12/59
วิธีรักษาฝ้า กระ ด้วยธรรมชาติ ประหยัดสุด
วิธีรักษาฝ้า กระ ด้วยธรรมชาติ ประหยัดสุด เห็นผลจริง
อยากรักษาฝ้าด้วยวิธีง่ายๆ แต่ไม่รู้จะใช้อะไรมาช่วยรักษาฝ้าดี เรามีวิธีรักษาแบบง่าบๆที่ประหยัดมาก และเห็นผลสุดๆ สำหรับใครที่เป็นฝ้าอยู่ ยังไม่รู้จะเลือกวิธีไหนรักษาฝ้า ลองทำตามเราได้เลยค่ะ
ฝ้า คืออะไร
ฝ้า คือ สีผิวที่ผิดปกติบนผิวหน้า
โดยสีของผิวจะเกิดจากสารหรือเม็ดสีเมลานิน (melanin)
ซึ่งถูกสร้างมาจากเซลล์ผิวหนังเมลาโนไซต์ (melanocyte)
ซึ่งเจริญมาจากเซลล์ระบบประสาท
โดยแฝงตัวอยู่ที่ด้านล่างสุดของชั้นหนังกำพร้า ประมาณ 30-40 เซลล์
เมื่อเกิดเหตุใดๆก็ตามที่ทำให้เม็ดสีเหล่านี้ผิดปกติไป
ก็จะทำให้สีของผิวบริเวณนั้นผิดปกติเกิดรอยปื้น น้ำตาล บนใบหน้า หรือ ฝ้า
นั่นเอง
สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดฝ้า
แสงแดด
แสงแดด มีรังสีอุลต้าไวโอเล็ต(UV
- Ultraviolet) สามารถทำให้เกิดฝ้าได้ตามบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก จมูก
เหนือริมฝีปาก โดยฝ้าเกิดจากเม็ดสีเมลานนิน
ซึางเม็ดสีเมลานินนี้มีหน้าที่พิเศษคือกรองรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต (UV -
Ultraviolet) ดังนั้นยิ่งเราตากแดดมาก
ร่างกายก็จะสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น
โดยที่รังสี UVA (รังสี UV ชนิด A
เป็นรังสีที่มีช่วงคลื่นยาว พลังงานต่ำ) จะกระตุ้นให้เซลล์ melanocytes
สร้างเม็ดสีเมลานินได้โดยตรง กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase
ให้ทำงานได้มากขึ้น และทำให้เซลล์ผิวหนัง (keratinocyte)
รับสารเมลานินได้มากขึ้นส่งผลให้สีผิวเข้มขึ้น จึงทำให้เกิดผิวสีคล้ำ
เกิดฝ้า หรือ กระ
รังสี UVB (รังสี UV ชนิด B มีช่วงคลื่นสั้น
พลังงานสูง) จะทำให้การทำงานประสานกันของเซลล์ melinocyte และเซลล์
keratinocytes ได้ดีขึ้นในการรับส่งเม็ดสีเมลานิน ถ้าได้รับมากๆ
สามารถทำให้เกิดผิวไหม้ บวมแดง และหากได้รับรังสีเป็นระยะเวลายาวนาน
อาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้
การใช้ยาบางชนิด
ยาบางชนิด สามารถไปกระตุ้นผิวหนังให้ไวต่อแสงแดด
ยาที่มักจะพบว่ามีผลต่อการเกิดฝ้าคือ ยาคุมกำเนิดบางชนิด
ยาแก้อักเสบเช่นเตตร้าไซคลิน (tetracyclines) อะมิโอดาโรน (Amiodarone)
ซึ่งเป็นยาที่มีผลกับการทำงานของหัวใจ ฟินนีโทอีน (Phenytoin)
เป็นยาที่ใช้รักษาโรคลมชักชนิดต่างๆ ฟิโนเธียซีน (Phenothiazines)
เป็นยาที่ออกฤทธิ์กับระบบประสาท มีผลทำให้ง่วงนอน ซัลโฟนาไมด์
(Sulfonamides) ที่ทำหน้าที่ฆ่าเชื้อโรคบางชนิด
ภาวะบางอย่าง
ภาวะที่ทำให้เกิดฝ้าได้ คือ การตั้งครรภ์ โรคตับ
โรคแอดดิสัน(พบได้น้อยมากเกิดจากต่อมหมวกไตสร้างฮอร์โมนสเตอรอยด์ได้น้อยกว่าปกติ)
อีโมโครมาโทซิส(Hemochromatosis)
เป็นโรคทางกรรมพันธุ์ที่เกิดจากการสะสมของเหล็กในกระแสเลือดจนทำให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ตับ
และเนื้องอกใต้สมอง
วิธีรักษาฝ้า ราคาประหยัด
วิธีรักษาฝ้า ด้วยหัวไชเท้า
นำหัวไชเท้าบด ผสมน้ำผึ้งเล็กน้อย
แต้มที่รอยฝ้า หรือ พอกหน้าเว้นดวงตา ปาก 10 - 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
กระชับผิวอีกครั้งหนึ่งด้วยน้ำเย็น ซับหน้าให้แห้ง
วิธีรักษาฝ้าด้วยหัวไชเท้านี้ ถ้าอยากให้เห็นผลดียิ่งขึ้นควรทำวันเว้นวัน
(สำหรับผู้มีผิวบอบบางไม่ควรใช้สูตรรักษาฝ้าด้วยหัวไชเท้า)
เท่านี้ฝ้าบนใบหน้าของคุณของคุณก็จะค่อยๆจางลง
แถมยังมีสรรพคุณช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าได้ดีอีกด้วย
วิธีรักษาฝ้า ด้วยใบบัวบก
นำใบบัวบกมาปั่น กรองแต่น้ำใช้สำลีชุบน้ำใบบัวบกเช็ดหน้าหลังล้างหน้าก่อนนอน ใบบัวบกมีสรรพคุณในการช่วยรักษาอาการของโรคผิวหนัง
โดยเฉพาะฝ้า กระ และสิว ทำแบบนี้ทุกวัน รอยฝ้า กระ ก็จะค่อยๆจางลง
เป็นวิธีรักษษฝ้าที่ประหยัด และได้ผลดีมากอีกวิธีหนึ่ง
วิธีรักษาฝ้า ด้วยว่านหางจระเข้
นำว่านหางจระเข้
ที่ใบแก่ๆ มาแช่น้ำทิ้งไว้ 10 นาที แล้วลอกเปลือกออก ล้างยางให้สะอาด
นำมาฝานเป็นแผ่นบางๆ หรือสะดวกจะบดก็ได้ แช่ในตู้เย็นให้ว่านหางจระเข้เย็นๆ
นำมาพอกหน้า 15 - 20 นาที ล้างหน้าให้สะอาด ทำเช่นนี้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
จะช่วยให้รอยฝ้ากระจางลง พร้อมทั้งช่วยลดอาการแสบไหม้
ระคายเคืองจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี ทำให้ผิวฟื้นฟู อิ่มน้ำดีขึ้น
วิธีรักษาฝ้า ด้วยแตงกวา
ปั่นแตงกวาให้ละเอียด นำมาพอกหน้าให้ทั่ว เว้นตา ปาก ทิ้งไว้ 15 นาที
แล้วล้างออก สามารถทำได้ทุกวันที่ต้องการ วิธีรักษาฝ้าด้วยแตงกวา
จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่ารอยดำบนใบหน้า ให้กลับมาสว่าง กระจ่างใสขึ้น
พร้อมคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า บรรเทาอาการแสบร้อนได้เป็นอย่างดี
ลดริ้วรอยต่างๆบนใบหน้าได้ด้วย
วิธีรักษาฝ้า ด้วยมะขามเปียก
มะขามผสมน้ำ
กรองให้ข้น นำมาแต้มที่รอยฝ้า หรือพอกหน้าทิ้งไว้ 10 นาที
ล้างออกด้วยน้ำอุ่น กระชับผิวอีกครั้งด้วยน้ำเย็น ทำอย่างนี้ทุกวัน
มะขามเปียกเป็นวิธีรักษาฝ้าที่ได้ผลดีวิธีหนึ้ง
เพราะมะขามเปียกจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ดำกร้านให้หลุดลอกได้เป็นอย่างดี
รวมถึงรอยฝ้า กระ ก็จางลงได้เมื่อทำเป็นประจำ
วิธีรักษาฝ้า ด้วยแอปเปิ้ลไซเดอร์
น้ำส้มสายชูจากผลแอปเปิ้ล ผสมน้ำเล็กน้อย นำมาทาที่ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ หากใครทนกลิ่นฉุนได้ก็พอกหได้ทั้งหน้าเลย ใช้สำลีชุบและเช็ดให้ทั่วใบหน้า รอจนแห้งแล้วจึงล้างออก น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลมีฤทธิ์กรด จึงช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใสและเนียนนุ่มขึ้น พร้อมทะ้งช่วยลดรอยฝ้า กระจุดด่างดำบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี
วิธีรักษาฝ้า ด้วยไข่ขาว
นำไข่ขาวที่ใกล้กับไข่แดง มาพอกหน้า 5-10 นาที อาจจะมีกลิ่นคาวสักหน่อย ไข่ขาวจะช่วยดูดซับรอยฝ้า และสิ่งสกปรก ทำให้หน้าขาว กระจ่างใส ลดสิวเสี้ยนได้ดีด้วยนะ
วิธีรักษาฝ้า ด้วยขมิ้น
นำขมิ้น
ผสมนมสด มาขัดนวดหน้าเบาๆสักพักหนึ่ง และพอกหน้าทิ้งไว้ 30 นาที
ล้างออกด้วยน้ำอุ่น กระชับผิวอีกครั้งด้วยน้พเย็น
ขมิ้นนอกจากจะช่วยสมานแผลได้ดีแล้ว ยังช่วยรักษาฝ้า กระ ให้จางลงได้ดีขึ้น
อีกทั้งยังช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน ขาวใส
และนมก็มีกรดแลคติกที่ช่วยให้ผิวขาวขึ้น ทำให้รอยฝ้า
กระจางลงได้ดีขึ้นด้วยนะ
วิธีรักษาฝ้า ด้วยมะนาว
มะนาว
ผสมน้ำผึ้งเล็กน้อย พอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
กระชับผิวอีกครั้งด้วยน้ำเย็น มะนาวมีกรด AHA & VitaminC
ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดรอยดำจากฝ้า กระ ได้ดีเยี่ยม
นอกจากจะช่วยรักษาฝ้าได้ดีแล้ว ยังช่วยลดความมันบนใบหน้า ทำให้ลดการเกิดสิว
ผิวหน้าชุ่มชื้น สะอาดขึ้น
วิธีรักษาฝ้า ด้วยหัวหอม
หัวหอมปั่นละเอียด ทาลงบนฝ้า ทิ้งไว้ 10-15 นาที จะช่วยให้รอยฝ้า กระจางลง เมื่อทำเป็นประจำ
วิธีเหล่านี้จะได้ผลยิ่งขึ้น
เมื่อใช้ควบคู่กับการทาครีมรักษาฝ้าสูตรหัวไชเท้าของ Manee Skincare ไปด้วย
จะช่วยให้รอยฝ้า กระ จุดด่างดำจางลงได้เป็นอย่างดี
และก็อย่าลืมว่าฝ้ากระจะกลับมาได้อีกหากไม่ดูแลตัวเองให้ดีๆ
อย่างการออกกำลังกาย ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆด้วยนะคะ
ขอขอบคุณ : http://www.maneeskincare.com
22/11/59
ท้องเสีย ห้ามกินยาหยุดถ่าย
ท้องเสีย ห้ามกินยาหยุดถ่าย เพราะอาจทำให้ อาการรุนแรงขึ้น
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แนะนำประชาชนป้องกันโรคอุจจาระร่วง ขอให้ดื่มน้ำสะอาดบรรจุขวด รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ ล้างมือฟอกสบู่หรือล้างด้วยเจลแอลกอฮอล์หลังจากเข้าห้องน้ำ และก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง ชี้หากมีอาการท้องเสีย ห้ามกินยาหยุดถ่าย เนื่องจากจะทำให้เชื้ออยู่ร่างกายนาน อาการอาจรุนแรงขึ้น แนะให้ดื่มผงน้ำตาลเกลือแร่แทน
นายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากการวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพของประชาชน ที่เดินทางไปถวายราชสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และใช้บริการที่หน่วยแพทย์ต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณท้องสนามหลวงและใกล้เคียง 38 แห่ง พบว่าประชาชนเกิดอาการท้องเสียทุกวัน อย่างเช่นวันที่ 26 ตุลาคม 2559 พบ 45 ราย วันที่ 25 ตุลาคม พบ 34 ราย ส่วนใหญ่พบในช่วงเช้าจนถึงเที่ยงคืน จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องความสะอาดของมือ อาหารและน้ำดื่ม
สำหรับสาเหตุโรคท้องเสีย เกิดมาจากการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่สะอาด ไม่ล้างมือให้สะอาดก่อนการเตรียมหรือปรุงอาหาร หรือก่อนรับประทานอาหาร และภาชนะใส่อาหารและน้ำสกปรกหรือมีเชื้อโรคปะปน อาการสำคัญของโรคนี้คือ ถ่ายอุจจาระเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน หรือถ่ายเป็นน้ำหรือถ่ายเป็นมูกปนเลือด อาจมีอาเจียนร่วมด้วย โดยอาการอาจมีเพียงเล็กน้อยจนกระทั่งรุนแรง โรคนี้จะมีผลให้ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่จำนวนมากและรวดเร็ว ทำให้เกิดภาวะขาดน้ำและอ่อนเพลีย จนทำให้ช็อกหมดสติ ถึงแก่ชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ
เรื่องที่ต้องระมัดระวังคือ เมื่อเกิดท้องเสียแล้วไม่ควรซื้อ ยาหยุดถ่ายมากิน เนื่องจากยาหยุดถ่ายจะทำให้ลำไส้หยุดบีบตัว และเก็บกักเชื้อโรคที่เป็นต้นเหตุไว้ในลำไส้นานขึ้น ส่งผลให้ร่างกายกำจัดเชื้อโรคได้ช้าลง และเป็นผลเสีย ทำให้ท้องอืด ปวดแน่นท้องมากขึ้น และอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้
การดูแลที่ถูกต้องคือ ให้รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊กหรือน้ำข้าว เพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร และดื่มสารละลายเกลือแร่ (Oral rehydration salts, ORS) เพื่อป้องกันอาการขาดน้ำและเกลือแร่ ที่เสียไปจากการท้องเสีย
ซึ่งวิธีการรับประทานเกลือแร่ที่ถูกต้องคือ จิบในปริมาณน้อยๆ ไปเรื่อยๆ แต่จิบบ่อยๆ และดื่มให้หมดภายใน 24 ชั่วโมง หากอาการยังไม่ดีขึ้น และรู้สึกอ่อนเพลียมาก หน้ามืดหรือวิงเวียนเวลาเปลี่ยนท่าทางจากนั่งเป็นยืน ตาลึกบุ๋ม ปัสสาวะไม่ออกหรือปัสสาวะลดลง ปากแห้ง กระหายน้ำบ่อยและมาก ควรไปพบแพทย์
สำหรับการป้องกันโรคท้องเสีย คือ หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือล้างด้วยเจลแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะหลังเข้าห้องน้ำและก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง เพื่อกำจัดเชื้อโรคออกไปจากมือ รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ไม่มีส่วนประกอบของกะทิซึ่งบูดเสียได้ง่าย ดื่มน้ำสะอาดบรรจุขวด และก่อนการบริโภคทุกครั้ง ขอให้สังเกตวันหมดอายุ และสภาพของอาหารว่ามีกลิ่นและสีเป็นปกติหรือไม่
ที่มาข่าวโดย กลุ่มประชาสัมพันธ์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ขอขอบคุณ : http://health.mthai.com
21/11/59
ลูกกับเกมบนโทรศัพท์มือถือ
ลูกกับเกมบนโทรศัพท์มือถือ
ไม่น่าเชื่อนะครับว่าวิดีโอเกม นั้นมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 แล้ว ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมและคุ้นเคยของเด็กแทบจะทุกคน และรวมไปถึงผู้ใหญ่บางคนด้วย คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ซึ่งอายุยังไม่มากจึงเติบโตขึ้นมาพร้อมวิดีโอเกมยุคก่อนๆ ด้วยเหมือนกัน นอกจากนั้นรูปแบบของวิดีโอเกมทุกวันนี้ ยังเข้ามาใกล้ชิดเรามากขึ้น เช่นเข้ามาเป็นโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนต่างๆ เช่น ไอโฟน หรือแอนดรอย หรือ แทปเล็ตพีซี เช่น ไอแพด ตัวอย่างเกมยอดฮิตก็เช่น Angry Bird ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็ชอบเล่น หรือ Simsimi ซึ่งเป็นข่าวดังเมื่อไม่นานมานี้
• ลักษณะเฉพาะของเกมบนโทรศัพท์มือถือ
ลักษณะเฉพาะของเกมบนโทรศัพท์มือถือ มักจะล้อไปกับลักษณะเฉพาะของโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน 3 ประการดังต่อไปนี้ครับ
1. เข้าถึงได้ง่าย พกพาสะดวก ซึ่งเหตุผลตรงนี้ ก็จะตามไปกับความสะดวกสบายในการใช้งานโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน เช่น ไอโฟน หรือแอนดรอย หรือแทปเล็ตพีซี เช่นไอแพด ที่สามารถเปิดปุ๊บ ติดปั๊บ ไม่ต้องรอบู๊ตเครื่อง ออนไลน์ก็แสนจะสะดวกง่าย ดาย ทั้ง ระบบ 3G และ Wifi
2. อาจใช้เวลาในการเล่นเกมมากกว่าปกติ โดยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างก็ไม่รู้ตัว ยกตัวอย่างเช่น เล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือ ขณะเดินทางอยู่บนรถ ยิ่งในกรุงเทพฯ รถติดๆ อาจเล่นเพลินเป็นชั่วโมงโดยผู้เล่นไม่รู้ตัว หรือเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ยิ่งนานขึ้นไปอีก นอกจากนี้เวลานั่งรอคิวอะไรอยู่ก็หยิบมาเล่นได้หมด หรือที่แย่กว่านั้นคือเดินไปเล่นไป รับประทานอาหารไปเล่นไปครับ
3. มีความหลากหลายของประเภทเกมเป็นอย่างมาก ทั้งประเภท เกมน่ารักๆ เกมตกแต่งรูปภาพ ไปจนถึงเกมผจญภัย หรือมีฉากก้าวร้าว รุนแรงร่วมด้วย อีกทั้งแต่เกมแต่ละเกม ก็กินเนื้อที่ความจำในเครื่องโทรศัพท์มือถือไม่มากนัก ทำให้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ สามารถบรรจุเกมได้หลายสิบเกม
• พ่อแม่พึงสังวรณ์
ในการที่จะให้คำแนะนำลูกหลานเกี่ยวกับการเล่นวิดีโอเกมรวมไปถึงเกมบนโทรศัพท์มือถือนั้น จึงมีเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องพึงสังวรณ์ อยู่ 2 ประการคือ
1. คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญกับการประเมินเนื้อหาและลักษณะของเกม ว่าเหมาะสมกับวัยและพัฒนาการของลูกหรือไม่ บางเกมอาจเป็นเกมน่ารักๆ แต่บางเกมอาจแฝงความก้าวร้าว รุนแรงไว้
2. คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจสอบเวลาที่ลูกใช้ในการเล่นวิดีโอเกม เช่นเดียวกันกับกิจกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมบนโทรศัพท์มือถือ ทั้งนี้เพราะเด็กมักใช้เวลาในการเล่นโดยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างก็ไม่รู้ตัว ดังได้กล่าวไปแล้ว
การประเมินความเหมาะสมของเนื้อหาของเกมบนโทรศัพท์มือถือนั้น คุณพ่อคุณแม่มีความรับผิดชอบที่จะต้องช่วยลูกในการเลือกเช่นเดียวกันกับการเลือก หนังสือ ของเล่น รายการโทรทัศน์ และภาพยนตร์ ให้เหมาะสมกับลูกแต่ก็คน สิ่งบันเทิงควรสนุกสนาน สร้างสรรค์ และไม่ควรน่ากลัวหรือกระตุ้นความวิตกกังวล หรือทำให้ฝันร้าย เกมบนโทรศัพท์มือถือก็อาจเป็นสาเหตุของความก้าวร้าวที่เพิ่มขึ้นในเด็กได้เช่นกัน แม้ว่าการศึกษาวิจัย ก็ยังไม่ได้ยืนยันชัดเจนนัก แต่ก็เป็นที่รู้กันดีว่ามีเด็กบางคนมีแนวโน้มที่จะแสดงออกอย่างที่เขาเห็น เด็กบางคนอาจไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างจินตนาการและความเป็นจริง นอกจากนี้เด็กบางคนอาจไม่สามารถควบคุมตัวเองและแสดงออกตามที่ได้เห็นจากสื่อต่างๆ ในขณะที่เด็กอีกกลุ่มอาจได้รับผลกระทบทางอารมณ์จากเนื้อหาของสื่อ
อย่างไรก็ตามมีผลการวิจัยชิ้นหนึ่งของศาสตราจารย์เรียวตะ คาวาซิม่า (Ryuta Kawashima) แห่งมหาวิทยาลัยโตโฮกุ ในประเทศญี่ปุ่น พบว่า การเล่นเกมคอมพิวเตอร์เป็นประจำอาจทำเด็กสูญเสียโอกาสพัฒนาทางสมองก็เป็นได้ งานวิจัยเรื่องนี้ทดสอบการทำงานของสมองของเด็กสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งทดสอบขณะที่เด็กกำลังเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ส่วนอีกกลุ่มขณะที่เด็กกำลังทำโจทย์เลข ปรากฏว่า เด็กที่กำลังเล่นเกมจะใช้ประสาทสมองเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับสายตา และการเคลื่อนไหวของอวัยวะเท่านั้น ต่างกับเด็กกลุ่มที่สองที่จะใช้สมองเกือบทุกส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่เรียกกันว่า บริเวณ frontal lobe ซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์ การจดจำสิ่งต่างๆ การแสดงความรู้สึกและการเรียนรู้ แสดงให้เห็นว่า ถ้าเด็กกลุ่มแรกไม่ค่อยได้ใช้ประสาทส่วนที่ว่านี้ และหากเด็กกลุ่มแรกเติบโตขึ้นไป โดยไม่สามารถยับยั้งการเล่นเกมจนติดเป็นนิสัย อาจจะเพิ่มโอกาสที่จะก้าวร้าว ไม่มีเหตุผลและทำอะไรไม่ยั้งคิด ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาความรุนแรงได้
ผลสำรวจล่าสุดของ AOL Game และ TIME พบว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของคนอเมริกันที่อายุระหว่าง 12 - 55 ปี ใช้เวลาเล่นเกมอย่างน้อย 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยไม่จำกัดว่าอุปกรณ์นั้นเป็นเกมคอนโซล เกมคอมพิวเตอร์พีซี เกมบนโทรศัพท์มือถือ หรือเกมพกพาในรูปแบบต่างๆ นอกจากนั้นเกมที่เล่นนั้นยังบ่งบอกถึงลักษณะของผู้เล่นอีกด้วย ซึ่งสามารถแบ่งแยกได้ตามเพศและอายุ
ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ อาจรู้สึกสนุกสนานกับเนื้อหาที่มีความรุนแรงบ้าง หนังสือหรือนิทานหลายๆ เรื่องก็อาจมีฉากหรือเนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับความรุนแรงอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามสื่อต่างๆ ทั้งภาพยนตร์หรือวิดีโอเกมในปัจจุบันมีความสมจริงมากขึ้น ทำให้ฉากต่างๆ เหล่านี้จะมีความชัดเจนและเข้าสู่จิตใจของเด็กๆ ได้มากกว่าการอ่านจากหนังสือ จึงทำให้บางครั้งเด็กๆ อาจนำเนื้อหาจากสื่อไปใช้ในการเล่นรุนแรง ซึ่งตรงนี้ทำให้พ่อแม่กลุ่มหนึ่งหลีกเลี่ยงที่จะซื้อของเล่นที่สื่อถึงความรุนแรงเช่นมีดดาบ ปืน เพียงเพราะเห็นลูกเคยเอาของเล่นเหล่านั้นไปใช้เล่นตามฉากที่รับชม
คุณพ่อคุณแม่จึงควรมีความรู้ ความเข้าใจในพื้นฐานอารมณ์ของเด็กแต่ละคน เพื่อที่จะช่วยเด็กในการเลือกเนื้อหาเกมบนโทรศัพท์มือถือได้อย่างเหมาะสม
• เกมมีข้อดีบ้างหรือไม่
ผู้ปกครองอาจช่วยลูกหลานในการเลือกสื่อซึ่งอาจให้ความรู้ด้วยหรือมีแต่เนื้อหาบันเทิงอย่างเดียวบ้างก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามนักจิตวิทยาเด็กบางคนคิดว่าวิดีโอเกมบางอย่างอาจช่วยพัฒนาเชาน์ปัญญาเช่นความสามารถในการวางแผน มิติสัมพันธ์ หรือการประสานงานระหว่างกล้ามเนื้อมือและตา พ่อแม่อาจใช้เวลาเล่นเกมกับลูกบ้างเพื่อที่จะได้เรียนรู้ เข้าใจ และพูดคุยเกี่ยวกับแนวคิด ความรู้สึกต่างๆ รวมไปถึงคุณพ่อคุณแม่อาจหาโอกาสร่วมปรึกษาหารือหรือสอดแทรกเรื่องคุณธรรม จริยธรรมลงไปให้กับลูกด้วย
ในปัจจุบันสื่อต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมบนโทรศัพท์มือถือ ได้พัฒนารูปแบบไปมาก ทั้งความสมจริง และความง่ายที่จะเข้าถึง คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้เท่าทันเพื่อจะได้ช่วยดูแลลูกในการเลือกสื่อต่างๆให้เหมาะสม และช่วยควบคุมเวลาในการเล่นด้วยครับ
เรื่อง : น.พ.กมล แสงทองศรีกมล
กุมารแพทย์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น
ขอขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลกรุงเทพ
ไม่น่าเชื่อนะครับว่าวิดีโอเกม นั้นมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 แล้ว ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมและคุ้นเคยของเด็กแทบจะทุกคน และรวมไปถึงผู้ใหญ่บางคนด้วย คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ซึ่งอายุยังไม่มากจึงเติบโตขึ้นมาพร้อมวิดีโอเกมยุคก่อนๆ ด้วยเหมือนกัน นอกจากนั้นรูปแบบของวิดีโอเกมทุกวันนี้ ยังเข้ามาใกล้ชิดเรามากขึ้น เช่นเข้ามาเป็นโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนต่างๆ เช่น ไอโฟน หรือแอนดรอย หรือ แทปเล็ตพีซี เช่น ไอแพด ตัวอย่างเกมยอดฮิตก็เช่น Angry Bird ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็ชอบเล่น หรือ Simsimi ซึ่งเป็นข่าวดังเมื่อไม่นานมานี้
• ลักษณะเฉพาะของเกมบนโทรศัพท์มือถือ
ลักษณะเฉพาะของเกมบนโทรศัพท์มือถือ มักจะล้อไปกับลักษณะเฉพาะของโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน 3 ประการดังต่อไปนี้ครับ
1. เข้าถึงได้ง่าย พกพาสะดวก ซึ่งเหตุผลตรงนี้ ก็จะตามไปกับความสะดวกสบายในการใช้งานโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน เช่น ไอโฟน หรือแอนดรอย หรือแทปเล็ตพีซี เช่นไอแพด ที่สามารถเปิดปุ๊บ ติดปั๊บ ไม่ต้องรอบู๊ตเครื่อง ออนไลน์ก็แสนจะสะดวกง่าย ดาย ทั้ง ระบบ 3G และ Wifi
2. อาจใช้เวลาในการเล่นเกมมากกว่าปกติ โดยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างก็ไม่รู้ตัว ยกตัวอย่างเช่น เล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือ ขณะเดินทางอยู่บนรถ ยิ่งในกรุงเทพฯ รถติดๆ อาจเล่นเพลินเป็นชั่วโมงโดยผู้เล่นไม่รู้ตัว หรือเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ยิ่งนานขึ้นไปอีก นอกจากนี้เวลานั่งรอคิวอะไรอยู่ก็หยิบมาเล่นได้หมด หรือที่แย่กว่านั้นคือเดินไปเล่นไป รับประทานอาหารไปเล่นไปครับ
3. มีความหลากหลายของประเภทเกมเป็นอย่างมาก ทั้งประเภท เกมน่ารักๆ เกมตกแต่งรูปภาพ ไปจนถึงเกมผจญภัย หรือมีฉากก้าวร้าว รุนแรงร่วมด้วย อีกทั้งแต่เกมแต่ละเกม ก็กินเนื้อที่ความจำในเครื่องโทรศัพท์มือถือไม่มากนัก ทำให้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ สามารถบรรจุเกมได้หลายสิบเกม
• พ่อแม่พึงสังวรณ์
ในการที่จะให้คำแนะนำลูกหลานเกี่ยวกับการเล่นวิดีโอเกมรวมไปถึงเกมบนโทรศัพท์มือถือนั้น จึงมีเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องพึงสังวรณ์ อยู่ 2 ประการคือ
1. คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญกับการประเมินเนื้อหาและลักษณะของเกม ว่าเหมาะสมกับวัยและพัฒนาการของลูกหรือไม่ บางเกมอาจเป็นเกมน่ารักๆ แต่บางเกมอาจแฝงความก้าวร้าว รุนแรงไว้
2. คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจสอบเวลาที่ลูกใช้ในการเล่นวิดีโอเกม เช่นเดียวกันกับกิจกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมบนโทรศัพท์มือถือ ทั้งนี้เพราะเด็กมักใช้เวลาในการเล่นโดยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างก็ไม่รู้ตัว ดังได้กล่าวไปแล้ว
การประเมินความเหมาะสมของเนื้อหาของเกมบนโทรศัพท์มือถือนั้น คุณพ่อคุณแม่มีความรับผิดชอบที่จะต้องช่วยลูกในการเลือกเช่นเดียวกันกับการเลือก หนังสือ ของเล่น รายการโทรทัศน์ และภาพยนตร์ ให้เหมาะสมกับลูกแต่ก็คน สิ่งบันเทิงควรสนุกสนาน สร้างสรรค์ และไม่ควรน่ากลัวหรือกระตุ้นความวิตกกังวล หรือทำให้ฝันร้าย เกมบนโทรศัพท์มือถือก็อาจเป็นสาเหตุของความก้าวร้าวที่เพิ่มขึ้นในเด็กได้เช่นกัน แม้ว่าการศึกษาวิจัย ก็ยังไม่ได้ยืนยันชัดเจนนัก แต่ก็เป็นที่รู้กันดีว่ามีเด็กบางคนมีแนวโน้มที่จะแสดงออกอย่างที่เขาเห็น เด็กบางคนอาจไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างจินตนาการและความเป็นจริง นอกจากนี้เด็กบางคนอาจไม่สามารถควบคุมตัวเองและแสดงออกตามที่ได้เห็นจากสื่อต่างๆ ในขณะที่เด็กอีกกลุ่มอาจได้รับผลกระทบทางอารมณ์จากเนื้อหาของสื่อ
อย่างไรก็ตามมีผลการวิจัยชิ้นหนึ่งของศาสตราจารย์เรียวตะ คาวาซิม่า (Ryuta Kawashima) แห่งมหาวิทยาลัยโตโฮกุ ในประเทศญี่ปุ่น พบว่า การเล่นเกมคอมพิวเตอร์เป็นประจำอาจทำเด็กสูญเสียโอกาสพัฒนาทางสมองก็เป็นได้ งานวิจัยเรื่องนี้ทดสอบการทำงานของสมองของเด็กสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งทดสอบขณะที่เด็กกำลังเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ส่วนอีกกลุ่มขณะที่เด็กกำลังทำโจทย์เลข ปรากฏว่า เด็กที่กำลังเล่นเกมจะใช้ประสาทสมองเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับสายตา และการเคลื่อนไหวของอวัยวะเท่านั้น ต่างกับเด็กกลุ่มที่สองที่จะใช้สมองเกือบทุกส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่เรียกกันว่า บริเวณ frontal lobe ซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์ การจดจำสิ่งต่างๆ การแสดงความรู้สึกและการเรียนรู้ แสดงให้เห็นว่า ถ้าเด็กกลุ่มแรกไม่ค่อยได้ใช้ประสาทส่วนที่ว่านี้ และหากเด็กกลุ่มแรกเติบโตขึ้นไป โดยไม่สามารถยับยั้งการเล่นเกมจนติดเป็นนิสัย อาจจะเพิ่มโอกาสที่จะก้าวร้าว ไม่มีเหตุผลและทำอะไรไม่ยั้งคิด ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาความรุนแรงได้
ผลสำรวจล่าสุดของ AOL Game และ TIME พบว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของคนอเมริกันที่อายุระหว่าง 12 - 55 ปี ใช้เวลาเล่นเกมอย่างน้อย 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยไม่จำกัดว่าอุปกรณ์นั้นเป็นเกมคอนโซล เกมคอมพิวเตอร์พีซี เกมบนโทรศัพท์มือถือ หรือเกมพกพาในรูปแบบต่างๆ นอกจากนั้นเกมที่เล่นนั้นยังบ่งบอกถึงลักษณะของผู้เล่นอีกด้วย ซึ่งสามารถแบ่งแยกได้ตามเพศและอายุ
ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ อาจรู้สึกสนุกสนานกับเนื้อหาที่มีความรุนแรงบ้าง หนังสือหรือนิทานหลายๆ เรื่องก็อาจมีฉากหรือเนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับความรุนแรงอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามสื่อต่างๆ ทั้งภาพยนตร์หรือวิดีโอเกมในปัจจุบันมีความสมจริงมากขึ้น ทำให้ฉากต่างๆ เหล่านี้จะมีความชัดเจนและเข้าสู่จิตใจของเด็กๆ ได้มากกว่าการอ่านจากหนังสือ จึงทำให้บางครั้งเด็กๆ อาจนำเนื้อหาจากสื่อไปใช้ในการเล่นรุนแรง ซึ่งตรงนี้ทำให้พ่อแม่กลุ่มหนึ่งหลีกเลี่ยงที่จะซื้อของเล่นที่สื่อถึงความรุนแรงเช่นมีดดาบ ปืน เพียงเพราะเห็นลูกเคยเอาของเล่นเหล่านั้นไปใช้เล่นตามฉากที่รับชม
คุณพ่อคุณแม่จึงควรมีความรู้ ความเข้าใจในพื้นฐานอารมณ์ของเด็กแต่ละคน เพื่อที่จะช่วยเด็กในการเลือกเนื้อหาเกมบนโทรศัพท์มือถือได้อย่างเหมาะสม
• เกมมีข้อดีบ้างหรือไม่
ผู้ปกครองอาจช่วยลูกหลานในการเลือกสื่อซึ่งอาจให้ความรู้ด้วยหรือมีแต่เนื้อหาบันเทิงอย่างเดียวบ้างก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามนักจิตวิทยาเด็กบางคนคิดว่าวิดีโอเกมบางอย่างอาจช่วยพัฒนาเชาน์ปัญญาเช่นความสามารถในการวางแผน มิติสัมพันธ์ หรือการประสานงานระหว่างกล้ามเนื้อมือและตา พ่อแม่อาจใช้เวลาเล่นเกมกับลูกบ้างเพื่อที่จะได้เรียนรู้ เข้าใจ และพูดคุยเกี่ยวกับแนวคิด ความรู้สึกต่างๆ รวมไปถึงคุณพ่อคุณแม่อาจหาโอกาสร่วมปรึกษาหารือหรือสอดแทรกเรื่องคุณธรรม จริยธรรมลงไปให้กับลูกด้วย
ในปัจจุบันสื่อต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมบนโทรศัพท์มือถือ ได้พัฒนารูปแบบไปมาก ทั้งความสมจริง และความง่ายที่จะเข้าถึง คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้เท่าทันเพื่อจะได้ช่วยดูแลลูกในการเลือกสื่อต่างๆให้เหมาะสม และช่วยควบคุมเวลาในการเล่นด้วยครับ
เรื่อง : น.พ.กมล แสงทองศรีกมล
กุมารแพทย์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น
ขอขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลกรุงเทพ
แนะนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์
แนะนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์
แนะนำ ซอฟต์แวร์บนคอมพิวเตอร์ต่างๆ มากถึง 60 ตัว รวบรวมโดยเว็บไซต์ Lifehacker ที่หาดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรีบนอินเตอร์เน็ต ซึ่งแต่ละโปรแกรมนี้ไว้ใช้ประโยชน์ในการทำงาน ในการอำนวยความสะดวก และทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานแบบเต็มประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการทำงานในชีวิตประจำวันของคุณ ซึ่งสามารถใช้งานเต็มรูปแบบได้ฟรี มีทั้งรูปแบบตัวเว็บไซต์ และแบบซอฟต์แวร์ติดตั้งบนคอมพิวเตอร์
ขอขอบคุณ : https://www.it24hrs.com
แนะนำ ซอฟต์แวร์บนคอมพิวเตอร์ต่างๆ มากถึง 60 ตัว รวบรวมโดยเว็บไซต์ Lifehacker ที่หาดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรีบนอินเตอร์เน็ต ซึ่งแต่ละโปรแกรมนี้ไว้ใช้ประโยชน์ในการทำงาน ในการอำนวยความสะดวก และทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานแบบเต็มประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการทำงานในชีวิตประจำวันของคุณ ซึ่งสามารถใช้งานเต็มรูปแบบได้ฟรี มีทั้งรูปแบบตัวเว็บไซต์ และแบบซอฟต์แวร์ติดตั้งบนคอมพิวเตอร์
- Firefox เว็บบราวเซอร์ผลงานของ Mozilla โดยอดีตผู้สร้างบราวเซอร์ที่โด่งดัง Netscape
- VLC โปรแกรมสำหรับเปิดไฟล์เพลง ไฟล์ภาพยนตร์ต่างๆมากมาย
- CCleaner โปรแกรมสำหรับลบไฟล์ขยะบนคอมพิวเตอร์
- Dropbox โปรแกรมสำหรับฝากไฟล์ไปยังเนื้อที่ออนไลน์บนอินเตอร์เน็ต รองรับทั้ง Notebook , smartphone และ tablet
- 7-Zip โปรแกรมบีบอัดไฟล์ เป็น Zip ไฟล์ ที่คุณสามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี
- OpenOffice.org โปรแกรมพิมพ์งาน โปรแกรมชุดสำนักงานที่สามารถใช้ทดแทนซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์อย่าง Microsoft Office
- Google Chrome
- μTorrent โปรแกรมโหลดไฟล์ P2p บิตทอเรนท์
- Notepad + + โปรแกรมพิมพ์ ที่คุณสามารถเปิดไฟล์เพื่อแก้งานเขียนโค้ดเว็บไซต์ HTML และการเขียนโค้ดภาษาคอมพิวเตอร์ต่างๆ
- Gmail เว็บไซต์บริการฟรีอีเมลล์ที่สามารถใช้บริการจาก Google ได้ทุกอย่างเลยทีเดียว
- GIMP โปรแกรมสำหรับตกแต่งภาพที่มีความสามารถคล้ายคลึงกับ Photoshop รองรับทั้ง MAC , Windows และติดมากับ Linux Ubuntu
- Paint.NET โปรแกรมสำหรับแต่งภาพ ใช้งานได้ฟรี และทำงานได้เยี่ยมกว่า paint ที่แถมมากับ Windows แถมปลั๊กอินสำหรับ Paint.net ที่ช่วยให้คุณสามารถเปิดไฟล์ psd สำหรับ Photoshop ได้
- Microsoft Securiry Essentials โปรแกรม กำจัดไวรัส ช่วยตรวจสอบและกำจัดไวรัสบนคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows ทั้งนี้ Microsoft แจกให้คุณได้ใช้งานฟรี
- Revo Uninstaller โปรแกรมสำหรับถอนการติดตั้งโปรแกรม ไม่ให้เหลือไฟล์ขยะหรือไฟล์ระบบของโปรแกรมที่เคยติดตั้งค้าง
- Evernote โปรแกรมสำหรับจดบันทึก ซึ่งสามารถ sync หากันได้ระหว่าง notebook มือถือ และแท็บเล็ต , iรวมเทคนิคเด็ดสำหรับผู้ใช้ Evernote
- Thunderbirds โปรแกรมสำหรับจัดการอีเมลล์ ที่สามารถใช้แทนพวก Microsoft Outlook
- Audacity โปรแกรมสำหรับอัดเสียง ตัดต่อเสียง ทำ ringtone mp3
- ImgBurn (เป็นโปรแกรมสำหรับทำการเขียนซีดีและเขียนดีวีดี Burn dvd แทนโปรแกรมลิขสิทธิ์อย่าง Nero Burning ROM )
- Picasa (โปรแกรมจัดการ Gallery รูปภาพจาก Google พร้อมเทคนิคพิเศษ สามารถจัดภาพถ่ายของคุณแบบจำใบหน้าได้ : Picasa 3.5 จัดภาพถ่ายของคุณด้วยการรู้จำใบหน้า )
- Skype (โปรแกรม VOIP สามารถแชตและวีดีโอแชตสนทนาเห็นหน้าได้ รองรับทั้ง Windows Mac Linux รวมทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตบนระบบปฏิบัติการ Symbian , windowsphone , iOS และ Android : คุ้มครอง Skype ของเราเต็ม )
- Pidgin (โปรแกรมแชตสารพัดประโยชน์ แชตร่วมกับพวก irc , Windows Messenger , icq , Yahoo Messenger , AIM , google talk และอื่นๆอีกมากมาย
- ubuntu ระบบปฏิบัติการฟรี ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการ Linux ที่นิยมใช้มากที่สุดและเติบโตเร็วที่สุด ที่นับวันหน้าตาสวยขึ้นคล้ายกับแนว MAC ทุกที ที่คุณสามารถดาวน์โหลดติดตั้งคู่กับระบบปฏิบัติการ Windows ได้
- iTunes (โปรแกรม sync เพลง และจัดการเพลงบนอุปกรณ์ iOS ที่โหลดใช้งานได้ฟรี )
- foobar2000 โปรแกรมฟังเพลงสุดแนว
- Foxit Reader โปรแกรมสำหรับอ่านไฟล์ Pdf
- FileZilla โปรแกรมสำหรับจัดการไฟล์ผ่าน FTP
- VirtualBox โปรแกรมสร้าง Visual Machine จำลองบนคอมพิวเตอร์ของเรา มีไว้สำหรับการลองลงระบบปฏิบัติการต่างๆเช่นพวก windows หรือ Ubuntu รุ่นใหม่ๆเป็นต้น
- TrueCrypt โปรแกรมแนวรักษาความปลอดภัย เข้ารหัสและถอดรหัสโดยอัตโนมัติ
- Avast! โปรแกรมฟรี Antivirus ยอดนิยม
- Defraggler โปรแกรมสำหรับจัดระเบียบดิสก์ ให้คอมทำงานได้เร็วขึ้น
- KeePass โปรแกรมช่วยจำรหัสผ่าน ที่ใช้งานสะดวกสบายและปลอดภัย
- Opera เป็นเว็บบราวเซอร์ 1 ใน 4 เว็บบราวเซอร์ยอดนิยม
- AVG โปรแกรมกำจัดไวรัสฟรียอดนิยม
- Digsby โปรแกรมที่ดีที่สุดสำหรับขาออนไลน์ ที่ชอบทั้งแชต เช็คอีเมลล์ และเล่น Social Network เป็นประจำ
- Google Reader เว็บไซต์สำหรับอ่านข่าว RSS Feed
- Winamp โปรแกรมฟังเพลงยอดนิยม
- Google Earth โปรแกรมสำหรับดูแผนที่ประเทศต่างๆในมุมมองแบบลูกโลก
- TeraCopy โปรแกรมที่ช่วยคัดลอกไฟล์ และย้ายไฟล์ได้เร็วมากๆ
- Launchy ตัวช่วยตัวใหม่ที่อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงโปรแกรมได้ดีขึ้น แทนปุ่ม start ในระบบปฏิบัติการ Windows
- Transmission โปรแกรมบิตทอเรนต์สำหรับ MAC และ Linux
- IDE Eclipse โปรแกรมสำหรับภาษาซี
- SpyBot Search & Destroy โปรแกรมสำหรับกำจัดไฟล์พวกสปาย ไฟล์อันตราย ไฟล์ขยะ บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา
- Adium อีกหนึ่งโปรแกรมสำหรับแชตสนทนา
- PuTTy โปรแกรม telnet
- Songbird โปรแกรม Opensource ที่มีความสามารถคล้ายกับโปรแกรมฟังเพลงอย่าง iTunes
- sumatra PDF โปรแกรมสำหรับอ่านไฟล์ PDF
- XBMC โปรแกรมพวกมีเดียเซนเตอร์ ไว้ดูหนังฟังเพลงแบบเปิดผ่านจอใหญ่ ดาวน์โหลดใช้ฟรี
- Blender โปรแกรมฟรีที่สามารถออกแบบสร้างแอนิเมชั่น
- CDBurnerXP อีกโปรแกรมฟรี สำหรับการเขียนซีดี ที่มีความสามารถคล้ายกับ Nero Burning Rom
- Everything โปรแกรมสำหรับ search หาไฟล์บนคอมพิวเตอร์ที่ทำงานค้นหาได้รวดเร็ว
- Handbrake โปรแกรมสำหรับใช้แปลงแผ่น DVD และ Blu-ray ให้เป็นไฟล์ MP4 และ MKV.
- Rainmeter โปรแกรมเด็ดสำหรับตกแต่งหน้าจอให้ดูดีทันสมัย
- AutoHotkey โปรแกรมตั้งคีย์ลัด เพี่อเรียกโปรแกรม หรือคำสั่งต่างๆได้เร็วขึ้น เป็นโปรแกรมยอดฮิตมากที่ใช้ในวงการเกม DotA
- Google Calendar เว็บไซต์สำหรับจัดการปฏิทินส่วนตัว เปิดได้ทั้งทางเว็บไซต์ ทางคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และ มือถือ รวมทั้งสามารถใช้ร่วมกันกับกิจกรรมบน Google Plus
- MediaMonkey โปรแกรมสำหรับจัดการเพลง
- Quicksilver โปรแกรมสำหรับ Mac ที่สามารถเข้าถึงโปรแกรมต่างๆได้เร็วขึ้น
- WinSCP โปรแกรม FTP สำหรับ Windows
- Boxee โปรแกรมสำหรับมีเดียเซนเตอร์ ดูหนัง ฟังเพลงบน PC ของคุณ
- AdBlock Plus ปลั๊กอินเสริมบน Firefox และ Chrome ไว้สำหรับ Block ปิดพวกโฆษณาบนเว็บไซต์ต่างๆ
- Media Player Classic โปรแกรมสำหรับเปิดไฟล์มีเดียต่างๆเช่นไฟล์เพลง และไฟล์วีดีโอ ที่ดีที่สุดสำหรับบนระบบปฏิบัติการ Windows
ขอขอบคุณ : https://www.it24hrs.com
สมัครสมาชิก:
บทความ
(
Atom
)