บทความน่ารู้และสาระประโยชน์ต่าง ๆ

loading...

13/3/56

9 สูตรวาฟเฟิล(waffle)

9สูตรวาฟเฟิล(waffle)

สูตรที่1
ส่วนผสม
 
แป้งถั่วเหลือง 2+1/2 ถ้วย
นมถั่วเหลือง 1 ถ้วย
น้ำมันถั่วเหลือง 1/2 ถ้วย
ไข่แดงตีพอแตก(ขนาดกลาง) 5 ฟอง
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1/2 ช้อนชา
วานิลลา 2 ช้อนชา
ไข่ขาว(ขนาดกลาง) 5 ฟอง
น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 3/4 ถ้วย
 
วิธีทำ
1.ผสมแป้งถั่วเหลือง นมถั่วเหลืองและเกลือ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
แล้วค่อยๆเทน้ำมันผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่ไข่แดงเคล้าผสมให้ทั่ว อย่าให้แป้งเป็นเม็ด
2. ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟูแข็ง ค่อยๆโรยน้ำตาลทีละน้อยจนหมด
3. เทส่วนผสมในข้อที่ 1 ลงในส่วนผสมข้อที่ 2 ใช้พายคนไปทางเดียวกันเบาๆ ให้เข้ากัน
ใส่วานิลลา คนอีกครั้ง
4. ตักหยอดใส่พิมพ์ขนมรังผึ้ง(ใช้พิมพ์รังผึ้งไฟฟ้าจะดีที่สุด ถ้าไม่มีพิมพ์ก็ใช้หยอดบนกะทะแบนที่ทาน้ำมัน
ทำเช่นเดียวกับแพนเค้กหรือถ้ามีเตาอบก็ใส่ถ้วยอบ หรือใช้อบพิมพ์ขนมไข่ ก็ได้เช่นกัน)
******************************************************************************
สูตรที่สอง
ส่วนผสม
 
แป้งเค้กตราพัดโปก 2 ถ้วยตวง
ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
เนยสดละลาย 1/2 ถ้วย
ไข่แดง 2 ฟอง
นมข้นจืด 2/3 ถ้วย
น้ำหอมกลิ่นวานิลา 1/2 ช้อนชา
ไข่ขาว 2 ฟอง
 
วิธีทำ
1. ร่อนแป้งตราพัดโบก กับผงฟูเข้าด้วยกัน เทน้ำตาลทรายลงผสมเข้าด้วยกันในอ่างผสม
2. ทำแป้งเป็นบ่อตรงกลาง เติมเนยละลาย ไข่แดง นมข้มจืด น้ำ และกลิ่นวานิลาลงไป
3. ใช้ตะกร้อมือคนจนทั่วให้ส่วนผสมเข้ากันดี แล้วพักไว้
4. ใช้เครื่องผสมอาหารขนาด 5 ลิตร ตีไข่ขาวด้วยหัวตีรูปตะกร้อ
ตีโดยใช้ความเร็วสูง หรือเกียร์3 จนกระทั่งไข่ขาวตั้งยอดแข็ง
5. เทส่วนผสมของไข่แดงลงในไข่ขาว คนตะล่อมให้ส่วนผสมเข้ากัน
6. เทลงบนแม่พิมพ์ของเตาทำขนมวาฟเฟิลที่เปิดเครื่องไว้แล้วที่ไฟปานกลาง
อบจนกระทั่งไม่มีไอน้ำระเหยออกมา และขนมเหลืองสุกทั้งสองด้าน
 
TIP
คุณสามารถดัดแปลง โดยการใส่ลูกเกด หรือข้าวโพดหรืออื่นๆ ตามชอบ ลงในขนมวาฟเฟิลได้
โดยการโรยลงบนขนมหลังจากเทส่วนผวมลงในแม่พิมพ ์แล้วจึงค่อยปิดเตา

***************************************************************************

สูตรที่3
เขาว่าสูตรนี้อร่อยอ่ะ 
ส่วนผสม
 
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
ผงฟู1/4 ช้อนชา
ยีสต์ 1/4 ช้อนชา
ไข่ไก่ 4 ฟอง
น้ำสะอาด 6 ช้อนโต๊ะ 

วิธีทำ
1.ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งสาลี ผงฟู ยีสต์ น้ำตาลทราย เทใส่ในชาม คนให้เข้ากัน
2.จากนั้น เทน้ำใส่ลงไป เสร็จแล้วก็นวดให้ส่วนผสมแป้งเข้ากันกับน้ำ
3.ตอกไข่ใส่ชามแล้วตีให้ไข่แตก เสร็จแล้วเทไข่ที่ตีไว้ใส่ลงในชามแป้ง แล้วก็คนให้ส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
4.ปิดฝาหมักทิ้งไว้อย่างน้อย ๑ ชั่วโมง
5.เสร็จแล้วก็เอามาหยอดใส่พิมพ์ได้ โดยใช้ไฟปานกลาง

************************************************************************************************
สูตรที่4
วาฟเฟิลเนยสดราดซอสเลมอน
 
ส่วนผสม
แป้งสาลีเอนกประสงค์ 250 กรัม ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 100 กรัม เกลือ 4 ช้อนชา
ไข่ 4 ฟอง
นมสด 250 กรัม
เนยสดเค็มละลาย 150 กรัม 

 
วิธีทำ
1. ผสมแป้ง น้ำตาล ผงฟู เกลือ คนให้เข้ากัน 2. ใส่ไข่ลงไป คนให้เข้ากัน 3. ส่นมและเนยละลาย คนให้เข้ากัน 4. ตั้งพิมพ์วาฟเฟิลให้ร้อน ทาเนยให้ทั่ว หยอดส่วนผสมวาฟเฟิล ลงไปในพิมพ์ ทิ้งไว้จนสุก นำขึ้นมาพักไว้ ส่วนผสมซอสเลมอน น้ำมะนาวเหลือง (ประมาณ 1 ผล) 50 กรัม
น้ำตาล 70 กรัม
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 200 กรัม 

 
วิธีทำ
คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ตั้งไฟคนจนข้น ยกลง ทิ้งไว้ให้เย็นเมื่อได้ซอสเลมอน
นำไปราดวาฟเฟิลให้ทั่ว รับประทานทันที

************************************************************************
สูตรที่5

วาฟเฟิลผลไม้ตุ๋นน้ำเชื่อม
 

ส่วนผสมผลไม้ตุ๋น :
ผลไม้สดตามต้องการ 200 กรัม
น้ำตาลทรายลิน 2 ถ้วย
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
เกลือ 1/2 ช้อนชา

 
วิธีทำ เครื่องปรุงผลไม้ตุ๋น :
1. นำหม้อใส่ผลไม้ น้ำตาล เกลือ น้ำเปล่าลงไปต้มให้เดือด และลดไฟลงไปตุ๋นให้ผลไม้สุก น้ำเชื่อมเหนียวขึ้น
2. ปิดไฟ ใช้ราดวาฟเฟิล

 
ส่วนผสมวาฟเฟิล:
แป้งแพนเค้กตราอิมพีเรียล 400 กรัม
นมสด 190 กรัม
เนยละลาย 1/2 ถ้วย
ไข่ไก่ 2-3 ฟอง
น้ำตาลทรายลิน 1/4 ถ้วย

 
วิธีทำ:
1. นำส่วนผสมทั้งหมดเทลงในชามผสม ตีให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
เมื่อส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันแล้วทิ้งไว้ 5 นาที
2. อุ่นเครื่องทำวาฟเฟิลไว้ให้ร้อน ตักส่วนผสมแป้งใส่ลงบนเครื่องทำวาฟเฟิลปิดฝาอบจนแป้งสุก
3. ตักวาฟเฟิลที่สุกแล้วออกวางลงบนจาน ตักผลไม้ตุ๋นราดลงไปบนวาฟเฟิล ยกเสริ์ฟทันที


*************************************************************************************************
สูตรที่6

Belgium waffle

เวลาเตรียม 60 นาที เวลาปรุง 30 นาที สูตรนี้พิเศษที่ผิวนอกกรอบหอม
แป้งในนุ่มหยุ่นคล้ายขนมปังเนยสด
หอมหวานน้ำผึ้งกำลังดี รับรองว่า วาฟเฟิลสูตรนี้อร่อยไม่แพ้ร้านไหนๆ แน่นอน

 
ส่วนผสม (สำหรับ16 ที่)
แป้งสาลีสำหรับทำขนมปัง 1 ถ้วย
แป้งสาลีสำหรับทำเค้ก 1+1/2 ถ้วย
น้ำตาลทรายขาว 3 ช้อนโต๊ะ
ยีสต์ผง 1 ช้อนโต๊ะพูน
นมผง 2 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 2 ฟอง
นมสดชนิดจืดอุ่น 2 ช้อนโต๊ะ
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้งอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
เนยสดชนิดจืด 3/4 ถ้วย
น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 2 ช้อนโต๊ะ
ช็อกโกแลตชิป 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่นเล็กน้อย

 
วิธีทำ
1. ใส่แป้งสาลีทั้งสองชนิด น้ำตาลทราย ยีสต์และนมผง ลงในอ่างผสม พักไว้
2. ผสมเกลือป่น ไข่ไก่ นมสด โยเกิร์ต น้ำผึ้งและวานิลาให้เข้ากัน แล้วเทใส่ส่วนผสมแป้ง
นวดให้เข้ากันนานประมาณ 5 นาที
3. ใส่เนยแล้วนวดต่ออีกประมาณ 5นาที จนก้อนโดเหนียวนุ่ม
จากนั้นพักโดไว้ให้ขึ้นเป็นสองเท่านาน 20 นาที
4. นำโดที่พักได้ที่แล้ว มานวดไล่อากาศและเติมน้ำตาลทรายไม่ฟอกสีและช็อกโกแลตชิป นวดให้เข้ากัน
แล้วแบ่งโดเป็นก้อนๆละ 40 กรัม ปั้นเป็นก้อนกลมพักไว้ให้ขึ้นอีก 30 นาที
5. เปิดเครื่องทำวาฟเฟิลไว้ให้ร้อน ทาเนยบางๆ วางก้อนโดที่ขึ้นดีแล้วลงตรงกลาง ปิดฝา
อบประมาณ 1–2 นาที (แล้วแต่รุ่นและความร้อนของเครื่องทำวาฟเฟิล)เสิร์ฟร้อนๆกับผลไม้และวานิลาซอส

 
ส่วนผสมวานิลาซอส
ไข่แดง 2 ฟอง
นมสดชนิดจืด 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
เนยสดชนิดจืด 1 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวานิลา 2 ช้อนชา

 
วิธีทำ
ใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงในหม้อ ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันดี
นำไปตั้งไฟอ่อนๆ หมั่นคนจนกระทั่งซอสเดือดและข้นขึ้น ปิดไฟและพักไว้ให้เย็น

****************************************************************************************************
สูตรที่7 ส่วนผสม:
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 กก.
ไข่ไก่ 5 ฟอง
เนยสดครึ่งก้อน (ละลายแล้ว)
น้ำตาลทราย 400 กรัม
นมสด 1 กระป๋อง
โยเกิร์ต 1/2 กระป๋อง
ผงฟูและเกลืออย่างละนิดหน่อย
 
วิธีทำ:
1.นำทุกอย่างผสมรวมกันแล้วใช้ตะกร้อตีให้เข้ากัน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ซึ่งสังเกตว่าแป้งเริ่มเหนียว ข้น และออกสีเหลืองแก่ ๆ ก็เป็นอันใช้ได้
แต่ถ้าเป็นแป้งวาฟเฟิลโด จะต้องใช้เครื่องตีแป้งตี เพราะต้องการที่จะให้แป้งเหนียวเป็นก้อน
ซึ่งใช้เวลาตีประมาณ 90 นาที เสร็จแล้วจะต้องนำแป้งแช่ในตู้เย็นด้วย เพราะไม่ได้ใส่สารกันบูด
หากเอาไว้ข้างนอกนานแป้งจะเสีย
 
TIP 
“เหตุที่ต้องใส่โยเกิร์ตลงไปผสมด้วยนั้น เพราะว่าโยเกิร์ตช่วยทำให้แป้งนุ่มเร็วขึ้น”
ถ้าอยากได้รสชอคโกแลต ผสมแป้งช็อกโกแลต 20 กรัม และน้ำพอประมาณลงไปตีผสมรวมด้วย 

*************************************************************************************************

สูตรที่8  
วาฟเฟิลแบบของA&W เป็นวาฟเฟิลที่กรอบแต่นุ่น 
ส่วนผสม
 
แป้งสาลีเอนกประสงค์ 2 ถ.
ยีสต์ 1/2 ชช.
น้ำตาลทราย 1 ชต.
เกลือ 1/2 ชช.
นม 2 ถ.
เนยละลาย 8 ชต.(ทิ้งให้หายร้อน
วนิลา 1/2 ชช.
ไข่ 2 ฟอง แยกไข่ขาว / ไข่แดง
น้ำมันทาพิมพ์เล็กน้อย


วิธีทำ
1. ไม่ต้องร่อนแป้งก่อน ตวงโดยตักแป้งใส่ถ้วยตวงทีละน้อย เบามือ จนพูนแล้วปาดให้เรียบเสมอปากถ้วยตวง
ที่ต้องบอกวิธีตวงแป้งอย่างละเอียด เพื่อจะให้ได้ปริมาณแป้งออกมาใกล้เคียงกัน ซึ่งจะมีผลต่อเนื้อขนมอย่างมากเลยค่ะ
ว่าจะตวงแล้วชั่งน้ำหนักเอาไว้ แต่พอตอนทำก็ลืมทุกที
ทุกครั้งที่ทำก็ตวงอย่างที่บอกไว้ค่ะ ตอนผสมก็จะดูเนื้อแป้งที่ผสมแล้ว บางทีก็เติมแป้งหรือเติมนมลงไปอีกนิดหน่อย
2.ใส่ส่วนผสมที่เป็นของแห้ง + เนยละลาย + นม ในอ่างผสม คนจนเข้ากันดี ปิดฝาแล้วตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง ค้าง 1 คืน 

ผสมก่อนที่จะเข้านอนนะคะ 

1. เวลาที่แป้งขึ้นฟู มันจะได้ 3 เท่าของปริมาณที่เราผสมในตอนแรก ดังนั้นต้องใช้อ่างผสมให้ใหญ่พอ จะได้ไม่ล้น 
2. สำหรับ นม เนื่องจากบ้านเราอากาศค่อนข้างร้อน ทิ้งค้างคืนมันอาจจะเสียซะก่อน ดิฉันจึงทำให้ร้อน เกือบเดือดแต่ไม่ถึงกับเดือด แล้วพักให้เย็นจึงนำมาผสม
3. ใส่ไข่แดงลงไป คนให้เข้ากัน
4. ตีไข่ขาว จนตั้งแข็ง [stiff peak]
5. ผสมไข่ลงในแป้ง ผสมแบบตล่อมเบาๆ ให้เข้ากัน จนไม่เห็นไข่ขาว เนื้อแป้งจะข้นประมาณเดียวกับแป้งเค้ก [Cake batter] ทดลองอบในพิมพ์วาฟเฟิลดู ถ้าออกมานิ่มๆแสดงว่าแป้งน้อยไป ให้ใส่แป้งลงไปเพิ่มนิดหน่อย ถ้าออกมาแข็งมากแสดงว่าแป้งมากไป เติมนมนิดหน่อย ถ้าตวงแป้งตามที่บอก น่าจะได้วาฟเฟิลที่เนื้อกรอบนิดๆ ระวังอย่าใส่เกลือมากกว่าสูตรนะคะ ตามสูตรนี่ก็รสจัดแล้ว 

        ถ้าใช้พิมพ์เทฟล่อน ไม่ตัองทาน้ำมันก็ได้ ดิฉันทาด้วยเนยละลายที่เหลืออยู่ แถมทาไม่ค่อยทั่วดี สีเลยออกมาด่างๆ ใช้น้ำมันน่าจะสีสวยกว่าค่ะ 

***********************************************************************************************

สูตรที่9 วาฟเฟิลแบบของA&W กรอบนอกนุ่มใน ส่วนผสม แป้งเอนกประสงค์ 230 กรัม
น้ำตาลทราย 30 กรัม
ผงฟู 8 กรัม
เกลือ 1/2 ชช.
นม 396 กรัม
น้ำมัน 70 กรัม
ไข่ 2 ฟอง (M )
วิธีทำ
1. ผสมของแห้งทั้งหมดใส่อ่างผสม คนให้เข้ากัน
2. ไข่แดง+นมตีให้เข้ากัน แล้วใส่ลงในอ่างผสมทีละน้อย คนเบาๆให้เข้ากัน จนหมด ระวังอย่าให้เป็นลูก
3.ใส่น้ำมัน คนเบาให้เข้ากัน แป้งจะค่อนข้างเหลว
4. ใส่กลิ่นวนิลา
5. ตีไข่ขาวตั้งยอดอ่อน ผสมแบบตะล่อมเบาๆ ให้เข้ากับแป้ง จนไม่เห็นไข่ขาว
6. พักไว้สัก 5 นาที จึงเอาไปอบด้วยพิมพ์วาฟเฟิล
7.กินตอนร้อนๆ ราดด้วยน้ำผึ้ง ไซรับ แต่ที่ชอบที่ซู้ดด คือ กินกับไอศครีมวนิลา
* บางตำราว่าวาฟเฟิลจะอร่อย ถ้าพักแป้งไว้สัก 30 นาทีจึงค่อยอบ ยังไม่เคยลองค่ะ
**อาจต้องใช้น้ำมันทาพิมพ์นิดหน่อย แม้จะเป็นพิมพ์เทฟล่อน
*** ถ้ายังไม่ใช้ใส่กล่องปิดฝา แช่เย็น ได้ทดลองแช่เย็นค้างคืนไว้ 36 ชม. เอาออกมาพักให้คลายความเย็นหน่อย จึงอบ ออกมาก็อร่อยเหมือนทำใหม่ๆค่ะ 

ขอขอบคุณเจ้าของสูตรทั้งหลาย