วิธีทำ ใช้ด้านในเปลือกกล้วยหอมสุก ถูเบาๆ บริเวณที่มีรอยหยาบกร้าน ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะทำให้ผิวนุ่มและชุ่มชื้น รอยหยาบกร้านจะค่อยจางหายไป
2. มะนาว : ลดสีเข้มของกระบนใบหน้า
ในผลมะนาวมีน้ำมันหอมระเหยถึง 7% แต่กลิ่นไม่ฉุนอย่างมะกรูด น้ำมะนาวจึงมีประโยชน์สำหรับใช้เป็นส่วนผสมน้ำยาทำความสะอาด เครื่องหอม และการบำบัดด้วยกลิ่น (aromatherapy) หรือน้ำยาล้างจาน ส่วนคุณสมบัติที่สำคัญ ทว่าเพิ่งได้ทราบเมื่อไม่ช้านานมานี้ (ราวคริสต์ศตวรรษที่ 19) ก็คือ การป้องกันและรักษาโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งเคยเป็นปัญหาของนักเดินเรือมาช้านาน ภายหลังได้มีการค้นพบว่าสาเหตุที่มะนาวสามารถช่วยป้องกันโรคลักปิดลักเปิด เพราะในมะนาวมีไวตามินซีเป็นปริมาณมาก
สรรพคุณทางยา
มะนาวเป็นผลไม้ที่มีกรดอินทรีย์หลายชนิด เช่น กรดซิตริก กรดมาลิค ไวตามินซี จากน้ำมะนาว ส่วนน้ำมันหอมระเหยจากผิวมะนาว มีไวตามินเอ และซี ทั้งยังมีธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในน้ำมะนาวอีกด้วย
มะนาวมีประโยชน์ใช้เป็นยาสมุนไพร ขับเสมหะ แก้ไอ เลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวม นอกจากนี้ยังช่วยแก้อาการปวดศีรษะ แก้อาเจียน เมาเหล้า ขจัดคราบบุหรี่ บำรุงตา บำรุงผิว เป็นต้น
สูตรผสม : ลดสีเข้มของกระบนใบหน้ามะนาวมีประโยชน์ใช้เป็นยาสมุนไพร ขับเสมหะ แก้ไอ เลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวม นอกจากนี้ยังช่วยแก้อาการปวดศีรษะ แก้อาเจียน เมาเหล้า ขจัดคราบบุหรี่ บำรุงตา บำรุงผิว เป็นต้น
ดินสอพอง 4-5 เม็ด
มะนาว 2 ซีก
วิธีผสมนำดินสอพองผสมกับน้ำมะนาวขยี้รวมกัน หากข้นเกินไป ให้เติมมะนาวลงไปอีกนิด เมื่อผสมเข้าเป็นเนื้อเดียวกันแล้วจะได้เนื้อครีมข้นและเหนียว ใช้สำหรับนำมาพอกหน้าที่สะอาดแล้ว ก่อนเข้านอนพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะรู้สึกผิวหน้านวลเนียน ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ภายในเวลาไม่ถึงเดือน จะสังเกตเห็นว่าผิวหน้าดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อทำได้ประมาณ 3 เดือนแล้วก็ให้ทำต่อไป เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็พอ เพื่อเป็นการรักษาความงามของผิวหน้า ให้คงอยู่ตลอดไป
3. กล้วยหอม : ลดรอยเหี่ยวย่น ถนอมผิวหน้าให้ชุ่มชื่น
คุณรู้ไหมว่ากล้วยหอมที่ดูแสนจะธรรมดา ที่แท้แล้วมีความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกล้วยหอมให้ดีขึ้นอีกนิดกันเถอะ
กล้วยหอมมีสารน้ำตาลอยู่ 3 ชนิด คือซุคโคส ฟรุคโตส และกลูโคส (sucrose, fructose and glucose) แถมยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร เมื่อทานกล้วยหอมแล้ว มันจะให้พลังงานแก่ร่างกายพร้อมนำไปใช้ทันทีเลยค่ะ จะยกตัวอย่างให้เห็นถึงพลังจากกล้วยหอม 2 ใบ พลังงานที่ได้จะมากพอที่จะให้เราทำงานถึง 90 นาทีแน่ะ แต่ประโยชน์ที่มหัศจรรย์ยิ่งกว่านั้นคือ ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ และอาการผิดปกติของร่างกายต่างๆ
สูตรผสม : ลด รอยเหี่ยวย่น ถนอมผิวหน้าให้ชุ่มชื่น- กล้วยหอม 1 ผล
- น้ำผึ้งแท้ 1 ถ้วย
วิธีผสม
นำกล้วยหอมมาปั่นรวมกับน้ำผึ้งแท้จนละเอียด รวมเป็นเนื้อเดียวกันจะได้เนื้อครีมข้นและเหนียว ใช้สำหรับนำมาพอกหน้าที่สะอาดแล้ว ก่อนเข้านอนพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเป็นประจำประมาณ 3 – 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ภายในเวลาไม่ถึงเดือนก็จะรู้สึก ได้ว่าผิวหน้าดูนุ่มนวลและสดใสขึ้นกล้วยซึ่งอุดมไปด้วยวิตามิน จะสามารถเป็นตัวบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นผลไม้ที่หาได้ง่ายอีกด้วย
นำกล้วยหอมมาปั่นรวมกับน้ำผึ้งแท้จนละเอียด รวมเป็นเนื้อเดียวกันจะได้เนื้อครีมข้นและเหนียว ใช้สำหรับนำมาพอกหน้าที่สะอาดแล้ว ก่อนเข้านอนพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเป็นประจำประมาณ 3 – 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ภายในเวลาไม่ถึงเดือนก็จะรู้สึก ได้ว่าผิวหน้าดูนุ่มนวลและสดใสขึ้นกล้วยซึ่งอุดมไปด้วยวิตามิน จะสามารถเป็นตัวบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นผลไม้ที่หาได้ง่ายอีกด้วย
4. มะขามเปียก : บำรุงผิวหน้าขาวเนียน ลดรอยฝ้าจุดด่างดำ
มะขามเปียกมีประวัติการใช้มายาวนาน ช่วยชำระสิ่งสกปรกจากผิวหนัง เพราะฤทธิ์ที่เป็นกรดอ่อนๆ ในมะขาม จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกจากผิวหนังได้ดี ปัจจุบัน ได้มีหญิงไทยจำนวนมาก ใช้มะขามเปียกผสมน้ำอุ่น และนมสดให้เข้ากันดี พอกบริเวณผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นรอยด้าน เช่น ตาตุ่ม ข้อศอก ฝ่ามือ ที่มีรอยกร้านดำ และบริเวณรักแร้ ขาหนีบ เพื่อให้ผิวหนังที่เป็นรอยดำจางลง ทำให้ผิวขาวนุ่มนวลขึ้น และนมสดจะช่วยบำรุงผิว ให้นุ่มได้
สรรพคุณ : บำรุงผิว ลบรอยเหี่ยวย่น ตีนกาส่วนผสม :
มะขามเปียก 1 กำมือ
นมสดรสจืด 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ มะขามเปียกแกะเม็ดเอารกออกแล้วล้างน้ำให้สะอาดผสมกับนมแล้วขยำให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าขาวบางหรือกระชอนตาละเอียด เติมน้ำผึ้งคนให้เข้ากันก็จะได้ครีมมะขามเปียก ใส่ภาชนะมีฝาปิดเก็บไว้ในตู้เย็น
วิธีใช้ ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด ทาครีมมะขามเปียกทิ้งไว้ 10 นาที ล้างด้วยน้ำสะอาด สูตรข้างต้นนี้เหมาะกับคนผิวมัน ถ้าคนผิวแห้งให้ลดมะขามเปียก เพิ่มปริมาณนมสดกับน้ำผึ้งให้มากขึ้น
สูตรผสม :มะขามเปียก 1 ก้อน
ดินสอพอง (2-3 เม็ด)
วิธีผสมนำมะขามเปียกและดินสอพองมาขยี้รวมจนละเอียดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน จะได้เนื้อครีมข้นและเหนียว ใช้สำหรับนำมาพอกกับหน้าที่สะอาดแล้วก่อนเข้านอนโดยพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะรู้สึกผิวหน้าสดชื่น และเต่งตึงขึ้นด้วยสูตรผสมนี้เป็นที่รู้จักกันดีทั่วไป สามารถนำมาขัดพอกผิวหลังจากอาบน้ำทุกครั้งและทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด และไม่ต้องฟอกสบู่ตามก็ได้ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้งภายในเวลาไม่ถึงเดือนจะสังเกตเห็นว่าผิวหน้าดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงจนสามารถสังเกตได้
5. ใบบัวบก : ลดรอยตีนกา
สารที่สำคัญที่ได้จากใบบัวบกคือ มีฤทธิ์ในการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็ว มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ฆ่าเชื้อราและลดอาการอักเสบ
สูตรใบบัวบก : ลด รอยตีนกา
ส่วนผสม1. ใบบัวบก
2.น้ำต้มสุก
วิธีทำใช้ใบบัวบกสดๆ ล้างให้สะอาด หั่นฝอยประมาณ 1/2 ถ้วย เติมน้ำต้มสุกนิดหน่อย นำไปปั่นให้เป็นน้ำข้นๆ กรองเอาแต่น้ำ
วิธีใช้ใช้สำลีชุบทาทั่วใบหน้า หรือจะใช้สำลีแปะไว้ที่ผิวใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยบำรุงผิวหน้าให้เต่งตึงไร้ริ้วรอย เพราะใบบัวบกมีสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินให้ทำงานได้ดีขึ้น
6. หัวไชเท้า : ช่วยลดรอยฝ้าและกระให้จางลง
หัวไชเท้าหรือผักกาดหัวมีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน (เจ้าถิ่นที่ยังยืนหยัดเป็นหลักให้กับ เอเซียทั้งทางด้านการแพทย์ตะวันออกและค่าเงินหยวน) แต่ตอนหลังหัวไชเท้าก็แพร่หลายไปทั่วตามการอพยพย้ายถิ่นของคนจีน นิยมรับประทานเป็นอาหาร ใช้ทำเป็นแกงจืด แกงส้ม ต้มจับฉ่าย หรือเอามาดองเค็ม ตากแห้ง ทำเป็นหัวไชโป๊ แล้วนำมาปรุงเป็นอาหารกินกับข้าวต้มกุ๊ยได้อีกหลายๆ ตำรับ
ที่สำคัญคือเจ้าหัวไชเท้านี่มีสารโปรวิตามินเอ ที่จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเออยู่สูงมาก หัวไชเท้าจึงเป็นแหล่งวิตามินเอที่หาง่ายและราคาถูก
ที่สำคัญคือเจ้าหัวไชเท้านี่มีสารโปรวิตามินเอ ที่จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเออยู่สูงมาก หัวไชเท้าจึงเป็นแหล่งวิตามินเอที่หาง่ายและราคาถูก
หัวไชเท้าเป็นอาหารที่ดีมาก ตำราจีนกล่าวว่าไชเท้ามีสรรพคุณในการกระจายสิ่งหมักหมมในร่างกาย ละลายเสมหะ แก้พิษ ลดความดัน ขยายหลอดลมและหลอดเลือด จึงควรเป็นอาหารที่อยู่ในเมนูของคนที่ป่วยเป็นโรคหวัด ไอเสียงแหบแห้ง ท้องขึ้นเนื่องจากอาหารไม่ย่อย คออักเสบเรื้อรัง
หัวไชเท้า: ช่วยลดรอยฝ้าและกระให้จางลงส่วนผสม1.หัวไชเท้า 1 หัว(ขนาดเล็ก)
2.น้ำมะนาวสด 1 ช้อนแกง
วิธีทำ
ใช้หัวไชเท้าล้างน้ำให้สะอาด ทำการปอกเปลือก แล้วหั่นบางๆ นำไปปั่นให้พอละเอียด ใส่น้ำมะนาวประมาณ 1 ช้อนแกงปั่นรวมกันอีกครั้ง
วิธีใช้
ให้ทาทั่วผิวหน้า (ยกเว้นรอบดวงตาและปาก) ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเป็นประจำจะช่วยลดฝ้า และกระให้สีจางลง
7. มะเขือเทศ : รักษาสิวสมานผิวหน้าให้เต่งตึง
มะเขือเทศ จะมีสาร Curotenoid และมีวิตามินหลายชนิด น้ำจากผลมะเขือเทศสุก จะมีสาร licopersioin ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา และแบคทีเรีย และน้ำมะเขือเทศสด นำมาพอกหน้า จะรักษาสิวสมานผิวหน้าให้เต่งตึง หรืออาจจะฝานบางๆ แปะลงบนผิวหน้าก็ได้
สรรพคุณ สมานผิว ลดรอยเหี่ยวย่น จุดด่างดำ
ส่วนผสม
- มะเขือเทศ 1 ผล
- รำข้าวหรือข้าวโอ๊ต 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีใช้ ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดหน้าให้แห้งพอกครีมมะเขือเทศทิ้งไว้นานเท่าที่มีเวลาแล้วล้างออกด้วยน้ำ สะอาด ในมะเขือเทศมีวิตามินเอมาก ซึ่งเป็น วิตามินที่ละลายได้ดีในน้ำมัน การใช้รำข้าวหรือข้าวโอ๊ตเป็นส่วนผสม เพื่อให้น้ำมันในรำข้าวหรือข้าวโอ๊ตเป็นตัวพาวิตามินเอเข้าสู่เซลผิวหน้าได้ ดีกว่า การฝานมะเขือเทศมาแปะหน้าเพียงอย่างเดียว สูตรนี้ใช้ได้ทั้งคนผิวแห้งและผิวมัน
8. แตงไทย : ลดเลือนริ้วรอย
แตงไทย นอกจากรสชาติจะอร่อยหวานแล้ว แตงไทยยังมีสารสำคัญที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย และยังอุดมด้วย วิตามินเอ บี และซี รวมทั้งน้ำตาลจากธรรมชาติอีกด้วย
วิธีทำ นำเนื้อแตงไทยมาปอกเปลือก แล้วคัดเฉพาะเนื้อมาครึ่งลูกปั่นให้ละเอียด ผสมน้ำมะนาวและน้ำมัน มะกอกอีก 1 ช้อนชา จากนั้นคัดเฉพาะน้ำไปแช่เย็น เมื่อเย็นพอแล้วนำมาเขย่า ใช้สำลีชุบแล้วลูบไล้ให้ทั่วทั้ง ใบหน้าและลำคอ ปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ (เก็บไว้ใช้ได้ 2 วัน) แค่นี้ก็รู้สึกเย็นผิว และชุ่มชื่นไปทั้งวัน
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ได้กับผิวที่ไหม้เสียจากแสงแดด ส่วนใครที่อยากเก็บไว้ใช้นาน ๆ (แต่อาจเสียความชุ่มชื่น จากแตงไปบ้าง) คือการผสมวอดก้าแบบ 100 พรู้ฟ หลังจากเติมน้ำมะนาว เท่านี้ก็เก็บไว้ได้นานถึง 2 สัปดาห์
9. แตงกวา : บำรุงผิวหน้าเนียนใส นวลเนียนชุ่มชื่น
แตงกวาจะมีวิตามินสูง ในผลแตงกวายังมีเอ็นไซม์ cryssin ซึ่งช่วยย่อยโปรตีนได้ เอ็นไซม์ชนิดนี้ จะช่วยย่อยผิวหนังที่หยาบกร้าน ให้หลุดออกไป เพื่อให้ผิวใหม่ที่อ่อนนุ่ม เกิดขึ้นมาแทนที่ บางคนใช้แตงกวาสด ผ่าเป็นชิ้นบางๆ วางบนใบหน้าที่ล้างสะอาด แทนน้ำแตงกวา ปัจจุบัน มีน้ำแตงกวาผสมในเครื่องสำอาง เช่น ครีมล้างหน้า ครีมทาตัว เพื่อช่วยให้ผิวไม่หยาบกร้าน และช่วยสมานผิว แตงกวาเป็นสมุนไพร ที่หาง่าย มีประโยชน์ ราคาถูก ใช้ติดต่อกับเป็นประจำ จะทำให้สวนสดชื่น มีน้ำมีนวล
สรรพคุณ สมานผิว ลบรอยเหี่ยวย่น
- แตงกวา 1 ผล
- ไข่ขาวจากไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
วิธีใช้ ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดให้แห้ง ใช้ครีมแตงกวาพอกให้ทั่วหน้า ยกเว้นรอบปากและดวงตา ทิ้งไว้ 20 นาทีล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้เหมาะ กับคนผิวมัน สำหรับคนผิวแห้ง ให้นำแตงกวาไปตุ๋นจนเละแล้วกรองเอาเฉพาะน้ำมาทาหน้า ทิ้งไว้ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ที่มา : http://www.samunpri.com/